บินเดี่ยวเที่ยวสิงคโปร์ : Birthday trip in Singapore Part 4

มาถึงตอนสุดท้ายแล้วค่ะ

วันนี้เราต้องกลับไทยแล้ว ตื่นค่อนข้างสายเนื่องจากความเหนื่อยล้าจากเมื่อวาน
อาบน้ำแต่งตัวออกมา 9 โมงกว่าค่ะ ยังคาใจกับอุโมงค์ต้นไม้ ไปเมื่อวานคนเยอะเลยไม่ได้รูปกลับมา
ไหนๆมาแล้วเลยกลับไปซ่อมอีกรอบนึงค่ะ

มาเช้านี้คนไม่เยอะเท่าเมื่อวาน รอแป๊บเดียว ที่ตรงนี้ก็เป็นของเราค่ะ

Fort canning park : Singapore
การเดินทาง ลิ้งค์นี้เลยค่ะ >> http://journeyofarrow.blogspot.com/2016/06/birthday-trip-in-singapore-part-2.html?m=0


 ตรงนี้จะเย็นๆ ร่มรื่น สวยมากเลยค่ะ



ถ่ายได้แป๊บเดียวก็ต้องรีบไปน้ำพุ Fountain of wealth ค่ะ
รอบเช้าน้ำพุจะเปิด 10 โมง
เรานั่ง MRT ไปลง สถานี City hall เพื่อไปถ่ายรูปเล่นแถวๆนั้นก่อนค่ะ ค่อยเดินไปตึก Suntec

โผล่ขึ้นมาแล้ว เจอมหาวิหาร St. Andrew


สิงคโปร์เช้านี้


เดินเลาะมาเรื่อยๆ จนเห็นตึกเรือ
ฝั่งขวามือเป็น National Gallery Singapore


เลี้ยวซ้ายมาอีกนิด เดี๋ยวจะเดินไปตึก Suctec ที่ตั้งของน้ำพุแห่งความมั่งคั่งค่ะ
มองไปที่มหาวิหาร St. Andrew อีกมุมนึง


เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งเจอเสาสูงๆแปลกๆ


ตรงนี้เป็น War memorial park ค่ะ


เดินมาเรื่อยๆ


ระหว่างรอข้ามถนน


เดินเข้ามาในส่วนของกลุ่มตึก Suntec แล้วค่ะ เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ จะงงๆนิดหน่อย
แต่หาเจอแน่นอนค่ะ

เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ เจอแล้วค่ะน้ำพุ แต่ยังไม่เปิด

**สำหรับ Fountain of wealth หรือน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
การเดินทาง แบบง่ายที่สุด ลง MRT Promanade ค่ะ โผล่ขึ้นมาจะเจอห้างเข้าตึก Suntec เลย
เดินเข้ามาในห้างจะมีป้ายบอกทางไปน้ำพุค่ะ ^^


ยังไม่ได้ทานข้าวเช้ามาค่ะ ตรงนี้มี Food Republic ด้วย
ทานข้าวเช้าที่นี่เลย ระหว่างรอน้ำพุเปิดค่ะ


เช้าวันนี้เป็นข้าวมันไก่ย่าง ชุดนี้ 5 SGD ค่ะ คนขายพูดไทยได้ด้วย เค้าทักเราคำแรก "ซาหวัดดีคับ"
ชวนคุยกันไปคุยกันมา เราบอกว่าบินมาสิงคโปร์เพื่อฉลองวันเกิดที่นี่
เค้าเลยแถม"ไข่ต้ม" ให้ด้วย 1 ฟอง เป็นของขวัญวันเกิดค่ะ น่ารักมากๆ
Thank you so much kaa !! ^^

ส่วนน้ำจะเป็น น้ำแอปเปิ้ลปั่นผสมใบมิ้นท์ค่ะ แก้วนี้ 3.50 SGD ค่ะ


ทานเสร็จ น้ำพุก็เปิดพอดีค่ะ ยังเช้าอยู่คนน้อย
ไปอธิษฐานขอพรกับน้ำพุกันค่ะ

เดินเข้ามาแล้ว


บรรยากาศช่วงเช้า


วิธีอธิษฐานขอพร เดินตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ แล้วใช้มือสัมผัสกับน้ำพุุตลอดเวลาที่เดินรอบน้ำพุ
แล้วก็อธิษฐานค่ะ


ดูใกล้ๆบ้าง


หลังจากนั้นเราก็รีบนั่งรถไฟฟ้ากลับไปที่ China town ค่ะ เพื่อเก็บของแล้วเช็คเอาท์ออกจากโฮสเทล

รถไฟฟ้า สาย Down town Line (สายสีน้ำเงิน) ค่อนข้างใหม่มากๆ


หลังจากเก็บของเช็คเอาท์เรียบร้อยแล้ว เราตัดสินใจไปสนามบินเลยค่ะ เพราะไม่อยากเป็นเหมือนขามา
เกือบตกเครื่องที่ดอนเมือง! ฮ่าๆ ตอนบ่ายที่สิงคโปร์จะค่อนข้างร้อนมาก เลยมาสแตนบายที่สนามบินเลยดีกว่าค่ะ

นั่ง MRT มาลงสนามบินChangi ลงที่ Terminal 2 ก่อนเดินขึ้นบันไดเลื่อน เราไปขอรีฟันด์เงินในบัตร
ตอนนั่งออกมาจาก Chinatown ตังค์ในบัตรไม่พอค่ะ เลยเติมเพิ่มไปอีก 10 SGD
ทีนี้จะไปรีฟันด์เงินคืน  ปรากฏว่า
**ถ้าขอรีฟันด์เงินในบัตรEZ-linkคืน บัตรนี้จะถูกยกเลิกไปเลย ใช้ไม่ได้อีกแล้ว

เนื่องจากบัตรนี้อยู่กับเรามา 3 ปีแล้ว เคยให้เพื่อนยืมอีกครั้งนึง คิดว่าน่าจะใช้คุ้มแล้ว
เดี๋ยวไว้มารอบหน้าค่อยซื้อใหม่ เผื่อได้บัตรลายใหม่ๆ ^^ ก็ได้เงินในบัตรคืนมาค่ะ
แล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้บัตรคืนเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ลองเดินออกมาข้างนอก Terminal 2


เครื่องออกเกือบ 6 โมงเย็น เราเลยนั่ง sky train มาเดินเล่นที่ Terminal 1 ค่ะ

ที่ Terminal 1 ช่วงนี้มีงานอาร์ตด้วย




เครื่องออกตอนเย็น หาอะไรทานก่อนเข้าเกทดีกว่าค่ะ
เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้นบน  มื้อสุดท้ายที่สิงคโปร์คือ KFC ชุดนี้ค่ะ 7.90 SGD


ทานเสร็จเคาท์เตอร์เช็คอินน่าจะเปิดแล้ว เดินไปขึ้น sky train กลับไปเช็คอินที่ Terminal 2 ค่ะ
เช็คอินรับบอร์ดดิ้งพาสเรียบร้อย ก็เดินผ่านตม.เดินเข้าไปในเกท


ถ้าจะใช้ Wi-fi ให้ติดต่อเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อรับพาสเวิร์ดก่อนนะคะ
ยื่นแค่พาสปอร์ตก็ได้มาแล้ว


เดินไปเรื่อยๆ เกทเราวันนี้ E23 ค่ะ


หิวน้ำแวะเข้า 7-11 ได้น้ำมา 1 ขวด กับนี่เลย เลย์รส Swiss cheese
กลับไทยเพิ่งแกะทาน แล้วพบว่า อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!
รู้งี้ซื้อกลับมาซัก 3 ถุงค่ะ > <


นั่งเล่นเน็ท  คุยไลน์กับเพื่อน ฟังเพลงไปเรื่อยๆ รอเกทเปิดค่ะ ตอนนี้ยังเข้าเกทไม่ได้


เกทเปิดแล้ว สแกนร่างกายและกระเป๋าก่อนเข้าไปรอด้านใน
รอบนี้เป็นบัสเกทค่ะ นั่งรอไม่นานก็เรียกขึ้นรถบัสให้ไปส่งที่ตัวเครื่องค่ะ

ระหว่างทางเจอเจ้าถิ่น Singapore Airlines


ระหว่างทางจากตัว Terminal ไปขึ้นเครื่องคือ สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นมากค่ะ
ครั้งแรกที่ได้ขึ้นเครื่องแบบบัสเกทที่ต่างประเทศ^^


เครื่องเราอยู่ตรงนี้


ขึ้นเครื่องมาแล้ว ก็ Take off

Bye Bye Singapore !! I'll be back, absolutely !!! ^^


เป็นการมาฉลองวันเกิดที่ต่างประเทศครั้งแรกที่สนุกและประทับใจมากๆเลยค่ะ ^^
ทริปนี้กลับถึงไทยอย่างปลอดภัยค่ะ

สำหรับค่าใช้จ่ายคร่าวๆ (ไม่รวมขนมกับของฝากนะคะ **1 SGD = 26 บาท)
Birthday trip in Singapore 2 วัน 1 คืน

ค่าตั๋วไป-กลับ (รวมค่าตัดบัตรเครดิต) 3,500 บาท
ค่าที่พัก 1 คืน 33 SGD
ค่า Ez-link 10 SGD
ค่าข้าวมื้อเช้าวันแรก 4.90 SGD
ค่าข้าวมื้อเย็น+น้ำ วันแรก 5 SGD
Singapore Flyer 33 SGD
------------------------
ค่าข้าวเช้า+น้ำวันที่สอง 8.50 SGD
ค่า KFC 7.90 SGD

รวม 102.3 SGD = 2,660 บาท
บวกค่าตั๋ว สรุปทั้งทริป 6,160 บาทค่ะ

สำหรับแพลนโปรแกรมทัวร์

คืนแรกบินออกจากดอนเมือง 5 ทุ่มค่ะ
-------------------------------------------
ถึงสิงคโปร์ ตี 2 กว่า นอนที่สนามบิน
6.00 น.นั่งรถไฟฟ้ามาลง Raffle place (Exit H)ถ่ายรูปเมอร์ไลออนช่วงเช้า
8.00 น.เช็คอิน ฝากกระเป๋า @ China town หาข้าวเช้าทาน
ช่วงเช้าไป อุโมงค์ต้นไม้ Fort canning park (Dhoby Ghaut Exit B)
ช่วงเช้าไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม Bugis Exit A
บ่ายไปถนน Orchard
บ่าย 3-5โมงเย็น เข้าห้องพักผ่อน
ช่วงเย็นหาข้าวทานก่อนไป Singapore flyer (Promanade Exit A)
-ขึ้นชิงช้า ถ่ายรูปเล่น เดินเล่น แถวอ่าวมารีน่า
3 ทุ่มกลับ China town
-------------------------------------------
เช้าไปเก็บตกอุโมงค์ต้นไม้
นั่ง MRT ไปลงสถานี City hall ขึ้นมาถ่ายรูปเล่น
มหาวิหาร St.Andrew / National gallery Singapore / War memorial park
ไปสัมพัสน้ำพุที่ตึก Suntec
กลับที่พักมาเช็คเอาท์ตอนเที่ยง
ช่วงบ่ายกลับสนามบิน
ขึ้นเครื่องกลับตอนเย็น

เป็นทริปสบายๆชิลๆค่ะ บินคืนวันศุกร์กลับถึงไทยวันอาทิตย์ช่วงค่ำ
วันจันทร์ก็มาทำงานต่อได้เลย เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่มีแพลนไปเที่ยวที่สิงคโปร์นะคะ
มีอะไรสงสัยสอบถามได้นะคะ

ขอให้เพื่อนๆสนุกกับการเดินทางนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ^^

แวะไปคุยกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/Journey-of-Arrow-1161356250559423/







บินเดี่ยวเที่ยวสิงคโปร์ : Birthday trip in Singapore Part 3

มาต่อกันที่ตอนที่ 3 ค่ะ

หลังจากไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมเรียบร้อยแล้ว อากาศเริ่มร้อน ช่วงบ่ายเราเลยแพลนไป
เดินเล่น ซื้อของฝาก ที่ถนน Orchard ค่ะ แหล่งช้อปปิ้งย่านดังของสิงคโปร์เลยทีเดียว

เดินกลับจากวัดเจ้าแม่กวนอิม จะมาขึ้นรถไฟฟ้า มองไปเห็น Bugis Village ด้วย


สำหรับในทริปนี้เรามีภารกิจ อยากไปลองชิมไอติมไฮโซ Godiva ค่ะ เห็นหลายรีวิวบอกว่าอร่อย
(และแอบแพง ฮ่าๆ)  วันเกิดทั้งทีก็ขอลองหน่อยละกันค่ะ สำหรับสาขาที่เรากำลังจะไปทานจะอยู่ที่
ห้าง Takashimaya ในโซนของ Department store อยู่ชั้น B2  (ถ้าเข้ามาจากนอกตัวห้าง เดินลงบันไดเลื่อนมาจะอยู่ติดกับบันไดเลื่อนค่ะ)

นั่ง MRT มาลงที่ Orchard เลยค่ะ สำหรับเราไม่ได้เดินออกไปข้างนอก พอดีเห็นมีป้ายเป็นทางเดินเชื่อมถึงด้านในตัวห้าง เลยเดินตามป้ายมา  สุดท้ายก็หลง ฮ่าๆ ต้องคอยเดินไปดู Map ของทางห้างว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของห้างแล้ว

เดินไกลเลยค่ะ แต่ก็วนจนเจอจนได้
ได้มาแล้วค่ะ ไอติมช็อคโกแลต Godiva โคนละ 9 SGDค่ะ ^^
Happy birthday to me ^^


เดินมาก เมื่อยขาค่ะ จากนั้นเราก็ออกมานั่งทานไอติมด้านนอก
ใครเดินมาตามถนน Orchard เห็นตึกสีน้ำตาลๆใหญ่ คือ NGEE ANN CITY ค่ะ
ตรงนี้คือห้าง Takashimaya ค่ะ ถ้าเข้าข้างหน้าลงบันไดเลื่อนไปจะเจอGodiva เลย


มองไปฝั่งขวามือ ถนนOrchard ค่อนข้างร่มรื่นค่ะ มีต้นไม้ใหญ่อยู่สองข้างทาง
บรรยากาศตอนนี้ไม่มีแดดค่ะ อึมครึมเหมือนฝนจะตก


หลังจากนั่งทานไอติมเสร็จแล้ว มีอีกหนึ่งภารกิจค่ะคืออยากได้ปากกาญี่ปุ่นค่ะ
กลับจากโตเกียวปีที่แล้วซื้อปากกามาด้วย ปากกาญี่ปุ่นเขียนดีมากๆ และที่ใช้อยู่หมึกก็กำลังจะหมด
ที่สิงคโปร์ก็มี Tokyo Hands ค่ะ เลยจะมาซื้อปากกาที่ Tokyo hands

สำหรับ Tokyo Hands นะคะ จะอยู่ที่ห้าง Orchard Central ชั้น B1 ค่ะ
ถ้าหันหน้าเข้าห้าง Takashimaya ให้เดินมาฝั่งซ้ายมือ เดินตรงมาเรื่อยๆค่ะ

รอข้ามถนน


เดินตรงไปเรื่อยๆ


เดินตรงไปอีกนิดเจอห้าง Orchard Gateway


ข้างๆกันจะเป็น Orchard central ค่ะ เจอแล้วทางเข้า


เข้ามาแล้วค่ะ เดินลงบันไดเลื่อนไปเลย


เดินลงบันไดเลื่อนลงมาเจอเลยค่ะ อยู่ติดกับบันไดเลื่อน


ได้ปากกาแล้ว ก็เดินขึ้นซื้อขนมพวกช็อคโกแลต ของฝากต่อค่ะ
ใกล้จะบ่ายสามโมงแล้ว เลยกลับไปที่โฮสเทลค่ะ จะได้เข้าห้องพักผ่อนค่ะ


ระหว่างที่เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ Orchard ฝนก็ตกแล้วค่ะ T T
ตอนเย็นมีแพลนจะไปนั่งชิงช้าซะด้วย

กลับมาถึง China town ฝนก็ยังตกอยู่ค่ะ


หลังจากเข้าห้องพักผ่อน ก็หลับไปค่ะ เนื่องจากความอ่อนเพลีย ตื่นมาอีกที 5 โมงเย็นค่ะ
ฝนหยุดตกแล้ว  เราจะไปนั่งชิงช้า Singapore flyer ค่ะ ^^
เห็นว่าพวกตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ ถ้าอยากได้ถูกกว่าwalk-in
ให้มาซื้อได้ที่ ร้าน Sea Wheel Travel ค่ะ อยู่ห้าง People's park ชั้น 3
ถ้ามา MRT China town ให้ออก Exit D ค่ะ โผล่ขึ้นมาแล้วเลี้ยวขวาเปิดประตูเข้าตัวห้างได้เลย

แต่เราไปแล้วไม่มีตั๋ว SG flyer ขายค่ะ - -" ถามเค้า เค้าบอกว่าwalk-in  ราคา 33 SGD ค่า
ไหนๆก็มารอบที่ 3 แล้ว หมายมั่นปั้นมือว่าจะนั่งชิงช้า ยังไงก็ต้องขึ้นค่ะ
ก่อนไป แวะเติมพลังก่อน

ข้าวมันไก่ จานนี้ 3 SGD ค่ะ


เติมพลังเสร็จก็ไป Singapore flyer กันค่ะ
การเดินทาง :  MRT Esplanade ออก Exit A ค่ะ
เดินโผล่ขึ้นมาจะเป็นแบบนี้ เดินข้ามถนนไปเลยค่ะ


เดินเลาะมาเรื่อยๆจะเจอแคปซูลที่จำลองด้านในเป็นโต๊ะอาหารค่ะ


ด้านในบ้าง


มาถึงแล้วค่ะ


แต่เรายังไม่ขึ้นตอนนี้ค่ะ รอค่ำๆให้เปิดไฟตอนกลางคืนก่อน ช่วงนี้ก็เดินเล่น ถ่ายรูปแถวๆนี้ค่ะ
บรรยากาศที่นี่ หลังฝนตกใหม่ๆ อากาศดีมากค่ะ เย็นสบาย ^^




นั่งรับลมตรงนี้ไปเรื่อยๆ ตึกต่างๆเริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ


เดี๋ยวเราไปต่อคิว ซื้อตั๋วขึ้นไปนั่งชิงช้ากันค่ะ
เข้าคิวตรงนี้


ราคาตั๋วค่ะ
แบบธรรมดา ราคา ผู้ใหญ่ คนละ 33 SGD


ได้ตั๋วมาแล้ว ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบนกันค่ะ ก่อนขึ้นชิงช้าต้องสแกนร่างกายและสิ่งของก่อนค่ะ
เหมือนตอนขึ้นเครื่องบินเลย

สแกนเสร็จเดินเข้ามาจะมีนิทรรศการเล็กๆข้างใน ตลอดทางก่อนจะไปถึงตัวชิงช้า


มาถึงจุดขึ้นชิงช้าแล้วค่ะ


ของเราจะเป็นแคปซูลถัดไปค่ะ


ขึ้นมาแล้วค่ะ


บรรยากาศในแคปซูล จะเปิดแอร์เย็นสบายค่ะ มีเสียงดนตรีคลอเบาๆ
แคปซูลที่เราขึ้นมาจุคนประมาณ 15 คนค่ะ ไม่เยอะมากแล้วก็ไม่อึดอัดค่ะ

มองไปเริ่มเห็นวิวแล้ว Garden by the bay


เดินกลับมาดูวิวฝั่งตรงข้ามบ้าง


ชิงช้าเริ่มเคลื่อนมาถึงจุดที่สูงที่สุดแล้วนะคะ


มุมฮิตที่หลายๆคนถ่ายจาก Singapore Flyer ค่ะ


เริ่มจะกลับลงมาข้างล่างแล้วค่ะ  ใช้เวลาบนชิงช้าประมาณ 30 นาทีค่ะ
วิวสวยงาม ประทับใจค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาในกาารต่อคิวซื้อตั๋วนิดนึงนะคะ
เราไปช่วงเย็นเคาท์เปิดขายแค่เคาท์เตอร์เดียว  และก็จะมีจุดที่ต้องใช้เวลาสแกนร่างกายและสิ่งของอีก
แต่โดยรวมรอไม่นานมาก ก้ได้ขึ้นชิงช้าแล้วค่ะ

ใกล้จะถึงแล้ว


กลับมาที่เดิมแต่ออกประตูอีกฝั่งนึงค่ะ  เดินเข้ามาจะผ่านร้านขายของที่ระลึก
แล้วก็เดินบันไดเลื่อนลงมาชั้นล่าง เสร็จสิ้นภารกิจนั่งชิงช้าค่ะ

Singapore Flyer ยามค่ำคืน ^^



อยากเดินไปถ่าย Garden by the bay ตอนกลางคืน แต่เหนื่อยมาก เดินไม่ไหวแล้ว
ตอนนี้ก็ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว เลยจะกลับที่พักเลย เดินลอดใต้สะพานไปหาเมอร์ไลออนค่ะ
จะไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ สถานี Raffle Place กลับ China town ค่ะ

ระหว่างทาง




ระหว่างทางลมพัดเย็นสบายค่ะ อากาศดีมาก คงเพราะฝนเพิ่งตกเสร็จตอนเย็น

เดี๋ยวข้ามสะพาน Jubilee ไปเมอร์ไลออนค่ะ


นักท่องเที่ยวเยอะเลยทั้งบนสะพานและหน้าเมอร์ไลออน


มองกลับไปฝั่ง Esplanade บ้าง คนเยอะเหมือนกัน


เดินข้ามถนนจะไปขึ้นรถไฟฟ้าค่ะ
ผ่านโรงแรม Fullerton


มองหันหลังกลับไป

เดินมาถึงสะพาน Cavenagh ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยมากค่ะ


แวะเดินข้ามสะพานไปดูฝั่งตรงข้ามบ้าง


เป็นหอนาฬิกาค่ะ



จากนั้นก็เดินลงมาที่ตัวสถานีด้านล่าง เพื่อกลับมาที่ China town
บรรยากาศในสถานี Raffle Place


มาถึง China Town 3 ทุ่มกว่าๆค่ะ จะไปถ่ายรูปวัดพระเขี้ยวแก้ว เดินไปดูปรากฏว่าปิดไฟแล้ว
อดถ่ายรูปเลย หาอะไรเย็นๆดื่มแล้วกลับห้องไปพักผ่อนค่ะ

ย่านChina town ตอนกลางคืน


เดี๋ยวพรุ่งนี้ก่อนกลับจะไปสัมผัสน้ำพุที่ Fountain of wealth ค่ะ

>> บินเดี่ยวเที่ยวสิงคโปร์ : Birthday trip in Singapore Part4 http://journeyofarrow.blogspot.com/2016/06/birthday-trip-in-singapore-part-4.html?m=0