เราตัดสินใจแวะลงที่สถานี Raffle place ก่อน เพื่อมาถ่ายรูปที่อ่าวมารีน่าตอนเช้า
ที่เดียวกันกับเมอร์ไลออนค่ะ แลนด์มาร์คสุดฮิตของสิงคโปร์
เมอร์ไลออน/อ่าวมารีน่า (Marina Bay)
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลงสถานี Raffle Place ออกExit H
โผล่ขึ้นมาแล้วเดินเลียบไปทางขวามือไปเรื่อยๆ จะเจอโรงแรมFullerton มองไปก็จะเจอตึกเรือ(Marina bay sand) เห็นเด่นชัด เดินข้ามถนนไปก็จะเป็นอ่าวมารีน่าค่ะ
นี่เราเดินข้ามถนนนมาแล้วค่ะ ยังไม่เจ็ดโมงเลย
เจอเมอร์ไลออนตัวลูกพ่นน้ำอยู่
เดินมาดูตัวพ่อบ้าง เฮ้ย! ไม่พ่นน้ำ เสียอีกแล้วเหรอสงสัยจะเหนื่อย
เรามาล่าสุดเดือนกันยาปี 2014 ค่ะ มาวันที่เค้าปิดปรับปรุงพอดี > <
ตึกเรือกับSingapore flyer เดี๋ยวตอนเย็นวันนี้เราจะไปนั่งชิงช้าค่ะ
สะพาน Jubilee สร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีประเทศสิงคโปร์ค่ะ (มาปี 2014 ตรงนี้ยังอยู่ในช่วงก่อสร้างอยู่เลย) มีสะพานนี้ก็สะดวกดีค่ะ ไม่ต้องเดินขึ้นไปด้านบนเพื่อข้ามไป Esplanade (ตึกหนามทุเรียน)
ฟ้าเริ่มสางแล้วค่ะ และแล้วก็ได้ยินเสียงซู่ๆ ประหลาดๆ
โอ้! เมอร์ไลออนพ่นน้ำแล้วค่ะ !! สงสัยปิดตอนดึกๆ ช่วงเช้าค่อยเปิดใหม่ นึกว่ามารอบนี้จะไม่พ่นน้ำแล้ว
เจอพี่ผู้หญิงคนไทยใจดีค่ะ ช่วยถ่ายรูปให้หลายรูปเลย หลายมุมด้วย ^^ ขอบคุณค่า ^^
แดดเริ่มมาแล้ว ช่วงเช้าอากาศดีมากค่ะ คนน้อย และก็จะมีคนมาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าด้วย
**ใครจะตื่นมาถ่ายรูปที่อ่าวมารีน่าตอนเช้า ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว Good morning !! Singapore !! ^^
แดดเริ่มร้อนแล้วค่ะ เรารีบเอากระเป่าไปฝากที่โฮสเทลแล้วรีบออกไปเที่ยวต่อดีกว่า
เดินย้อนกลับมาทางเดิมค่ะ
ผ่านสะพาน Cavenagh bridge
เราพักที่ 5footway.inn Project สาขา China town ค่ะ
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลง China town ออก Exit A โผล่ขึ้นมา มองไปทางขวามือจะเจอป้ายสีขาวๆดำๆ ตรงนี้จะเป็นโฮสเทลค่ะ ทำเลถือว่าสะดวกมาก
โผล่ขึ้นมาแล้ว ยังเช้าอยู่ร้านต่างๆยังไม่เปิด
เราพักเป็น dorm ค่ะ ห้องรวมหญิงคืนละ 33 SGD รวมอาหารเช้า (เราจองผ่าน Booking.comค่ะ) แต่ที่นี่ต้องจ่ายค่ามัดจำอีก 20 SGD นะคะ ได้คืนตอนเช็คเอาท์ จะเข้าห้องได้ก็บ่ายสามโมงค่ะ เพราะฉะนั้นต้องออกไปเที่ยวก่อนค่อยกลับมา
**เวลาไปเช็คอินที่โฮสเทล สำหรับมือใหม่ไม่ต้องพูดอะไรมากค่ะ
แค่เซย์ฮัลโหล แล้วบอกว่า "Check-in" พร้อมยื่น Passportให้ เป็นอันรู้กันค่ะ ^^
สตาฟที่เราเช็คอินด้วยพูดไทยได้ค่ะ ไม่ต้องสงสัยว่าที่นี่คนไทยมาพักเยอะแน่นอน ยื่นพาสปอร์ตให้ปุ๊บ
เปลี่ยนเป็นพูดไทยกับเราเลย ฮ่าๆ เช็คอิน จ่ายตังค์ ฝากกระเป๋าเรียบร้อยก็หาอะไรทานก่อนค่ะ แถวนี้มีศูนย์อาหาร China town complex ด้วยค่ะ อยู่ตรงข้ามกับวัดพระเขี้ยวแก้ว เช้านี้เรามาฝากท้องที่นี่ ได้เป็นข้าวหมูแดง+หมูกรอบ (3.50 SGD) พร้อมกับคิกคาปู้เย็นๆ 1 กระป๋อง (1.40 SGD) ติดใจคิกคาปู้ตอนไปเที่ยวปีนังเมื่อปีที่แล้วค่ะ ^^
**หลายร้านจะมีรูปและราคาให้เราเลือกค่ะ ชี้ๆรูปอาหารที่เราต้องการ คนขายก็เข้าใจค่ะ ^^
เติมพลังเรียบร้อย ที่แรกที่จะไปคืออุโมงค์ต้นไม้ค่ะ หรือ Fort canning park ช่วงนี้กำลังฮิต
และคนไทยไปถ่ายรูปเยอะมาก เดี๋ยวไปดูกันว่าฮิตจริงรึเปล่า
เดินย้อนกลับมาเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า
ภายในสถานี China town จะมีอักษรภาษาจีนอยู่ด้วย
อุโมงค์ต้นไม้ : Fort canning park
การเดินทาง : ลง MRT Dhoby Ghaut ออก Exit B โผล่ขึ้นมาเลี้ยวซ้าย จะเจอห้าง Park mall
เดินข้ามถนนมาหน้าห้าง เลี้ยวซ้ายเดินเลียบ ลเาะตัวห้างไปเรื่อยๆจะเจอป้ายทางเข้า Fort Canning park และบ่อน้ำ(แห้ง) เป็นรูปหัวมังกร เดินตรงมาอีกนิดจะเจอทางเดินเล็กๆที่อยู่ติดริมถนน ตรงนี้แหละค่ะ
จะได้เจอกับมุมอุโมงค์ต้นไม้ตำนาน
เอาล่ะค่ะ เริ่มเดินทางกันเลย นั่งมาถึงสถานี Dhoby Ghaut ที่นี่จะ interchange รถไฟถึง 3 สายด้วยกัน
สถานีค่อนข้างใหญ่ ตอนนี้กำลังจะเดินไปออก Exit B ค่ะ
โผล่ขึ้นมาจากบันไดเลื่อนให้เลี้ยวซ้ายค่ะ มองตรงไปจะเจอห้าง Park mall
เดินข้ามถนนไป แล้วเดินเลาะเลียบตัวห้างไปทางซ้ายมือจะผ่านร้านกาแฟ ร้านอาหารค่ะ เดินมานิดเดียวก็จะเจอป้ายนี้ ถึงแล้ว แต่อย่าเพิ่งเลี้ยวขวาไปจามป้ายนะคะ เดินตรงไปอีกนิดตรงอุโมงค์ทางด่วน
ที่มีรถวิ่งออกมา จะจเอทางเดินเล็กๆ ให้เดินมาทางนี้
เดินเข้ามาทางนี้เลยค่ะ
เข้ามาแล้วจะเป็นแบบนี้ เดินตรงไปจนสุด แล้วแหงนหน้าขึ้นไป
ใช่เลยค่ะ อูโมงค์ต้นไม้ แต่!! คนเยอะจริงๆค่ะ มีทีมงานกำลังถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่น่าจะนานเลยไม่รอค่ะ
เจอคนไทยด้วยค่ะ
*ใครจะมาถ่ายรูปที่นี่เตรียมใจนิดนึงนะคะ แต่เราไม่รอค่ะ ไปที่อื่นต่อ
โปรแกรมต่อคือ เราจะไปไหว้ขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมค่ะ ย่าน Bugisค่ะ เค้าบอกว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ขออะไรก็สมหวังดีงปรารถนา เซียมซีแม่นมากด้วย วันเกิดทั้งทีไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
วัดเจ้าแม่กวนอิม Kwan Im Thong Hood Cho Temple
การเดินทาง : ลง MRT Bugis ออก Exit A เลี้ยวซ้ายค่ะ เดินเลาะตามถนนตรงมาเรื่อยๆ จนเจอสะพานลอยข้ามถนน เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม จะผ่านตลาดขายของ พวกเสื้อผ้า ของใช้ เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอแผงขายดอกไม้ ธูป หน้าวัด วัดจะอยู่ฝั่งขวามือค่ะ
ออกจาก Exit A เลี้ยวซ้าย ตรงมาเรื่อยๆจนเจอสะพานลอย
เดินไปถึงสะพานลอย แล้วมองไปฝั่งตรงข้ามจะเจอตลาดขายเสื้อผ้า ของใช้ เดินข้ามถนนไปเลยค่ะ
เดินเข้ามาจะเป็นแบบนี้ เดินตรงมาเรื่อยๆจนกว่าจะเจอวัดค่ะ วัดอยู่ฝั่งขวามือ
เจอหน้าวัดแล้วค่ะ คนเยอะมาก ด้านในมีธูปให้นะคะ เสี่ยงเซียมซีด้านใน และห้ามถ่ายรูปด้านในค่ะ
หลังจากเจ้าไปไหว้ขอพร เสี่ยงเซียมซีเสร็จเรียบร้อยแล้ว แดดร้อนมากแล้วค่ะ ใกล้จะเที่ยงแล้ว
เราจะไปต่อกันที่ ถนน Orchard แหล่งช้อปปิ้งย่านดังของสิงคโปร์ค่ะ อากาศร้อนๆ ไปเดินตากแอร์ในห้างดีกว่า ^^
บินเดี่ยวเที่ยวสิงคโปร์ : Birthday trip in Singapore Part 3 >> http://journeyofarrow.blogspot.com/2016/06/birthday-trip-in-singapore-part-3.html?m=0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น