Review :: ทำพาสปอร์ต @ ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์

สวัสดีค่ะทุกคน ^^

สำหรับรอบนี้จะมารีวิวไปทำพาสปอร์ตที่ธัญญาพาร์คค่ะ อยู่ตรงศรีนครินทร์
เมื่อก่อนจะอยู่ที่เซ็นทรัลบางนา (รอบที่แล้วเราไปทำที่เซ็นทรัลบางนา)
แต่ตอนนี้ย้ายแล้ว มาอยู่ที่ธัญญาพาร์คค่ะ จะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

การเดินทาง :: เราเลือกนั่ง Airport link มาลงที่สถานีหัวหมากค่ะ แวะทานข้าวแถวทางรถไฟก่อน
เดี๋ยวไม่มีแรงถ่ายรูป ฮ่าๆ จากนั้นก็นั่งวินมาที่ธัญญาพาร์คค่ะ ค่าวิน 25 บาท

ถึงแล้ว ^^


เดินลอดซุ้มร่มสีๆ ตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอป้ายบอกทางค่ะ

ที่ตั้ง :: สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวบางนา - ศรีนครินทร์
ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 2 โซน E
โทรศัพท์ 02 136 3800, 02 136 3802  และ 093 -0105246 โทรสาร  02 136 3801
เปิดทำการ  จันทร์ - ศุกร์ 8.30 น. - 15.30 น.

ที่มา :: http://www.consular.go.th/main/th/organize/21037-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.html


เรามาถึงประมาณบ่ายโมงค่ะ ขึ้นบันไดเลื่อนไปเลย


ขึ้นมาแล้วก็จะเจอจุดรับบัตรคิวค่ะ มาตอนบ่ายคนไม่เยอะค่ะ มีคนต่อแถวก่อนหน้าเราแค่ 2 คนเอง
แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาทำพาสปอร์ต แล้วก็ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ไปค่ะ แล้วเค้าจะให้บัตรคิวเรามา


เดินไปด้านใน กรอกเอกสารค่ะ แล้วก็รอเรียกคิวค่ะ ไปตอนบ่ายรอเรียกไม่ถึง 3 นาทีค่ะ  มีจอบอกคิว


จากจุดนี้เข้าไปวัดส่วนสูงค่ะ  จากนั้นก็ไปถ่ายรูปตามช่องที่จัดไว้ให้ตามคิว
ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ของเรามีพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ นำไปด้วยค่ะ
จากนั้นก็พิมพฺลายนิ้วมือแล้วก็ถ่ายรูป  ของเราถ่ายไปเกือบ 10 ช็อต ฮ่าๆ ไม่ชอบก็ถ่ายใหม่ค่ะ
ของเราเจอเจ้าหน้าที่ใจดีด้วยค่ะ  เค้าไม่หงุดหงิดเลย ถ่ายจนพอใจ ก็รอเซ็นต์ชื่อ
ของเราจะมารับเล่มเองค่ะ ไม่ได้ส่ง EMS

*ถ้ามารับเอง ก็ต้องนำบัตรประชาชนกับพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุมาด้วยค่ะ
ใช้เวลา 2 วันทำการ
เราไปทำวันอังคาร ก็จะได้เล่มวันพฤหัสค่ะ

ถ่ายรูปเสร็จ เดินไปจ่ายตังค์ค่ะ 1000 บาท (แบบธรรมดา)

จากจุดรับบัตรคิวจนถึงขั้นตอนจ่ายตังค์ ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น !! เร็วมากๆเลยค่ะ

วันไปรับเล่ม เราไปวันจันทร์เช้า คนมารอทำพาสปอร์ตเยอะค่ะ แนะนำมาบ่ายๆดีกว่า รอไม่นาน
ส่วนตอนมารับเล่มก็ใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่จะไปทำพาสปอร์ตนะคะ ^^

 แวะไปคุยกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/Journeyofarrow/

ไปเดินป่าสิงคโปร์กัน @Tree top walk : MacRitChie nature trail

สวัสดีค่ะทุกคน ^^

ไปเที่ยวมามีรีวิวมาฝากอีกแล้ว สำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวธรรมชาติๆ มาสิงคโปร์หลายครั้งละ
ไปเก็บแต่แลนด์มาร์คสำคัญๆมาหมดละ เริ่มหมดมุก ฮ่าๆ บวกกับเป็นคนชอบเนเชอรัล ชอบธรรมชาติ
สิงคโปร์ก็มีป่านะจ๊ะตัวเธอ ป่ะไปกัน ที่นั่นคือ Macritchie nature trail & reservoir park เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของสิงคโปร์แล้วก็มีเส้นทางเดินป่า รวมไปถึงทางเดินเหนือยอดไม้ ( Tree top walk)

*สำหรับ Tree top walk จะปิดทุกวันจันทร์นะคะ last entry 16.45 น.ค่ะ ใครมาก็เผื่อเวลาดีๆด้วยค่ะ
*เดินทางเมื่อ 30 พ.ค. 2561


การเดินทาง มีรถเมล์ผ่านหลายสายเลย แต่สำหรับมือใหม่ ยังงงๆกับการขึ้นรถเมล์ที่นี่
เราเริ่มสตาร์ทจาก MRT Crementi (สายสีเขียว อยู่ฝั่งตะวันตก ) ตรงนี้จะมี bus interchange ด้วยค่ะ

เรานั่งรถเมล์สาย 165 ซึ่งออกจากที่นี่เลย ง่ายดีไม่หลงแน่นอน เข้าไปรอในช่องเลยค่ะ
รถเมลฺ์มาก็แตะ ez-link ขึ้นปกติ ออกจากที่นี่ 12.43 น.


นั่งมาประมาณ 15-20 นาทีก็มาถึงทางเข้าค่ะ ลงป้ายนี้เลย


เดินเข้ามาด้านใน เดินตามป้ายมาเลยค่ะ จะเจอกับอ่างเก็บน้ำนี้ก่อน


เดินตรงไปเรื่อยๆจะเจอทางเข้าค่ะ จากจุดนี้ เรามองเห็นลิงขย่มต้นไม้อย่างสนุกสนานเลยค่ะ ><


แล้วก็มาถึงจุดสตาร์ท สามารถเดินทางนี้ก็ได้หรือทางที่เป็นสะพานเลาะเลียบอ่างเก็บน้ำก็ได้ค่ะ


แต่เรากลัวลิงที่ขย่มต้นไม้ ก็เลยเลือกเดินทางนี้ อีกอย่างเพิ่งมีคนเดินเข้าไป เราเลยเดินตามๆเค้าไปค่ะ
เริ่มเดิน 13.25 น. โอเค!!  let's go !!

แผนที่




ทางก็จะประมาณนี้ อากาศไม่ร้อนเลยค่ะ ร่มรื่นบวกกับช่วงเช้าเพิ่งฝนตก


เดินไปเรื่อยๆ มีป้ายบอกทางตลอดค่ะ อีก 3.8 กิโลถึง tree top walk สู้ๆ ^^


เดินไปเรื่อยๆ ก็จะมีคนวิ่งสวนเรามาบ้างค่ะ มาคนเดียวไม่น่ากลัวเลย


14.26 น. เดินมาชั่วโมงนึง เพิ่งเจอทางแยกนี้ค่ะ ก็เลี้ยวซ้าย เหลืออีก 1.3 กิโลค่ะ


ทางประมาณนี้


แล้วก็จะเจอถนนแบบนี้ค่ะ เดินตามทางไป


มาถึงตรงนี้คือทางเข้า tree top walk ที่แท้ทรูค่ะ ข้ามรั้วไป



14.51 น.  เดินมาจนเจอป้ายนี้ อีก 550 เมตรใกล้ถึงแล้ว เย่ๆ


ตรงนี้คือ Ranger station แวะพัก แวะเข้าห้องน้ำก่อนได้ค่ะ


เสร็จแล้วเดินต่อค่ะ เริ่มร้อนและเหนื่อยละ พูดเลย ฮ่าๆ


15.02 น. ถึงทางเข้าแล้วค่ะ ^^ เดินลงบันไดไม้ไปเลย


เวลาเปิด-ปิดตามนี้เลย


บันไดแข็งแรงดีค่ะ


นั่งพักก่อน เหนื่อยแล้ว ฮ่าๆ มีน้องลิงมาทักทายด้วยค่ะ


เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ห้ามเดินกลับนะคะ เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ


น้องลิง


เดินไปดูวิวกัน


น้องลิง แบบใกล้ชิด


ฝั่งขวามือนู่นมองเห็นอ่างเก็บน้ำค่ะ


วันนี้คนน้อยค่ะ อยู่นานแค่ไหนก็ได้ ถ่ายรูปให้หนำใจ แล้วค่อยเดินต่อค่ะ ^^


แดดเริ่มมาละ ไปดีกว่า กลับไป Ranger station ค่ะ เดินตามทางไปเลย


มีศาลาให้นั่งพักด้วย


เดินไปเรื่อยๆค่ะ จากจุดๆนี้เราไม่เจอใครเลย ฮ่าๆ


อีก 1 กิโลค่ะ Keep Walking...



เดินจนมาถึงทางแยกค่ะ มีป้ายบอกไป Jelutong tower
เราก็เหนื่อยนะ แต่ไหนๆก็มาแล้ว แวะไปดูหน่อยละกัน


16.16 น. @ Jelutong tower ค่ะ
บันไดก็จะวนๆหน่อย


ขึ้นมาเป็นแบบนี้


วิวตรงโน้น


พักหายใจ เสร็จแล้วก็เดินย้อนกลับทางเดิมค่ะ วนไปเจอ Ranger station
สามารถเดินกลับทางเดิมที่เดินมาได้ค่ะ

แต่เราอยากไปสำรวจอีกทาง ที่มีชื่อว่า Venus drive ก็เลยเดี๋ยวกลับทางนั้น
เดินตามแผนที่มาเลย


เจอฝูงลิงอยู่บนถนนด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่กวนเค้า เค้าก็จะไม่ทำอะไรเรา เราเหนื่อยแล้วค่ะ
อยากกลับไปอาบน้ำแล้ว ก็เลยเดินๆ รูปไม่ค่อยได้ถ่าย งงกับทางออกอยู่ค่ะ เริ่มหลงและงงแล้ว ฮ่าๆๆ

สุดจะช็อคเมื่อเจอป้ายนี้ !!!!  ระวัง!! งู !! กรี๊ดดด !!! ><


เดินตามทางมาเรื่อยๆ เริ่มได้ยินเสียงรถยนต์จากถนนใหญ่ แต่หาทางออกไม่เจอค่ะ
ก็เลยถามคุณลุง ที่เดินสวนมาว่าป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ทางไหน

คุณลุงก็บอกให้เดินไปลานจอดรถก่อนแล้วจะเจอถนนใหญ่ ยูก็ข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์
เราก็ตามนั้น  แต๊งกิ้วค่ะ คุณลุง >< tree top walk หลงสุด ฮ่าๆ

17.18 น. @ Car park


เดินออกมาเจอถนนใหญ่ก็ข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์ ป้ายนี้เลย ใกล้สุดที่หาได้ละ รอดตายละ ฮ่าๆ
17.27 น.  ถึงป้ายรถเมล์


จากท่ารถเมล์ที่ Crementi จนจบทริป ใช้เวลาไปประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ในการเดิน tree top walk
เตรียมน้ำ เตรียมขนมมากินระหว่างทางได้ ระวังน้องลิง และงูด้วยค่ะ แต่เราไม่เจองูนะ ><

ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็แวะมากันได้ค่ะ  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า ^^

มีคำถามสงสัย แวะไปคุยกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/Journeyofarrow/?ref=bookmarks

Review ที่เที่ยวในสิงคโปร์#2018 by Journey of Arrow

สวัสดีค่ะทุกคน ^^

รีวิวนี้รวบรวมที่เที่ยว ที่เดินเล่นในสิงคโปร์ในแบบฉบับของเราค่ะ
ลองไปมาแล้วแต่ละที่เป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันค่ะ

List สถานที่ในรีวิวนี้
Sky bridge ดาดฟ้า ตึก Pinnacle@Duxton
Henderson waves
Southern Ridge
Chinese Garden
ตึกติ่มซำ (NTU)
Sungei buloh wetland reserve
Changi beach park

ปั่นจักรยาน@Pulua Ubin >> https://journeyofarrow.blogspot.com/2018/04/im-lost-in-pulau-ubin-singapore2018.html
ไปเดินป่าสิงคโปร์ @ Tree top walk >> https://journeyofarrow.blogspot.com/2018/07/tree-top-walk-macritchie-nature-trail.html

Sky bridge ชั้น 50 ตึก Pinnacle @Duxton

การมองเมืองสิงคโปร์จากมุมสูง ใครๆก็คงนึกถึงดาดฟ้าของ MBS หรือ Sand sky park ชั้น 56 ใช่มั้ยคะ
แต่ค่าบัตรตั้ง 20 กว่าเหรียญ เรามีอีกหนึ่งที่ที่เราไปแล้วชอบมากๆเลยคะ ไม่แพงด้วย ค่าบัตรแค่ 6 เหรียญเท่านั้น นั่นคือ ดาดฟ้าตึก Pinnacle @ Duxton หน้าตาตึกจะเป็นแบบนี้


การเดินทาง MRT ที่ใกล้ที่สุดคือ Outram park แล้วเดินต่ออีกหน่อย
แต่ของเรานั่งรถเมล์สาย 75 ไปลงหน้าตึกทางขึ้นเลยค่ะ ป้ายนี้เลย


จากหลังป้ายรถเมล์นี้จะมีป้ายชี้ไปทางเข้าออฟฟิสค่ะ ต้องทำการลงทะเบียนขึ้นตึกก่อนแล้วก็จ่ายตังค์ค่ะ
ของเราจ่ายไป 6 SGD ลงทะเบียนด้วยบัตร ez-link ค่ะ



จ่ายตังค์แล้วขึ้นลิฟท์มาเลย จิ้มไปชั้น 50 ออกมาจากลิฟท์ก็มองหาทางเข้า
ใช้ ez-link แตะค่ะ แล้วเราก็เดินหมุนๆตามประตูเข้ามา


ผ่านประตูเข้ามาแล้วเจอวิวนี้


มีที่นั่งให้ด้วยค่ะ ^^



ช่วงนี้ทุกวันเสาร์มีซ้อมพาเหรดค่ะ เหมือนได้ดู Singapore Airshow อีกรอบเลยค่ะ 6 เหรียญที่จ่ายไปคุ้มมากๆ ฮี่ๆ (วันที่ไป เสาร์ 30 มิ.ย. 61)


ตรงโน้นโซน China town ค่ะ


ยามเย็น นานๆจะได้ดู sun set ที่นี่ เพราะฝนตกบ่อยๆตลอดๆ ><


กลางคืนบ้าง มืดแล้ว  ลมพัดเย็นดีมากค่ะ มีที่นั่งให้หลายจุดเลย แถมคนไม่เยอะด้วย
วันที่ขึ้นมา วันเสาร์ค่ะ ไม่วุ่นวายเลย ถ้าเทียบกับ Sand sky park เราไปวันเสาร์เหมือนกัน คนเยอะม๊าก--"




ท่าเรือตอนกลางคืน


China town ตอนกลางคืน จำตึกสีเขียวๆเหลืองๆได้


สรุปแล้ว เราชอบค่ะ ถูกดี 6 เหรียญ ไม่วุ่นวาย ขึ้นมาแล้วอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ เรานั่งรับลมข้างบนเกือบ 3 ชั่วโมง ชิวจัด ช่วงเวลาที่ควรขึ้นมาก็หกโมงถึงทุ่มนึงเป็นต้นไปค่ะ บรรยากาศดีจริงๆ ^^

สะพาน Henderson waves



สะพานคนเดินที่สูงที่สุดในสิงคโปร์ มีลักษณะเป็นเกลียวคลื่น ผู้คนนิยมไปวิ่ง เดินเล่นออกกำลังกายกันค่ะ  ตอนกลางคืนก็เปิดไฟสวยดี


วิวจากด้านบน


หันหน้าไปฝั่งทะเล
ตอนเย็นๆ


เริ่มมืดแล้ว

การเดินทาง นั่ง MRT ไปลงสถานี Harbour front ต่อรถเมล์หน้าห้าง Vivo city สาย 131 / 145
มาลงแถวๆใต้สะพาน นั่งรถเมล์ไม่นานค่ะ ประมาณ 10 นาที จะมองเห็นสะพานอยู่ด้านบน กดกริ่งลงได้เลย

Southern Ridge


Henderson waves ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Southern Ridge ค่ะ เป็นพื้นที่ที่มีทางเดินเชื่อมต่อกัน
สามารถชมนกชมไม้ ได้ในมุมสูง แถมไม่ต้องออกนอกเมืองไปไกลด้วยค่ะ เย็นๆมีคนมาวิ่งตามทาง

การเดินทาง ของเราเริ่มจากนั่งรถเมล์สาย 61 มาลง ป้าย opp sp Jain แถวสะพาน Alexandra arch ค่ะ
ลงรถเมล์เสร็จก็เริ่มเดินจากตรงนี้เลย


เดินตามทางบนสะพานไปได้เลยค่า



เดินไปจนสุด ก็จะเจอทางเดินไปต่อที่ Henderson waves ค่ะ


Chinese Garden


เป็นสวนสาธารณะอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศค่ะ มีทั้งสวนจีนและสวนญี่ปุ่น
เราไปเดินแล้ว บรรยากาศดีค่ะ แต่ไปช่วงสายๆ อากาศร้อนม๊าก เหมาะมาเดินออกกำลังกาย เช้าๆไม่ก็เย็นๆค่ะ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เต่าด้วยนะคะ และก็ระหว่างเดิน ระวังตกใจน้องๆตัวเงินตัวทองด้วยค่ะ ><

การเดินทาง MRT Chinese Garden สายสีเขียว ออก Exit B ถ้านั่งมาจากในเมืองให้มองฝั่งซ้ายมือไว้เลย จะเจอสวนอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ ไม่หลงแน่นอน




ตึกติ่มซำ NTU

จาก Chinese Garden นั่ง MRT ต่อไปอีก 2 สถานีค่ะลงสถานี Boonlay เราจะไปทานข้าวเที่ยงที่ Nanyang Technological University (์NTU)  ไปดูในมอด้วยว่าบรรยากาศมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเป็นอย่างไร
จาก MRT ฺBoonlay ต่อรถเมล์สาย 179 ค่ะ ผ่านเข้ามาในมอเลย



เดินเข้ามาด้านในเป็นแบบนี้


มองขึ้นไปด้านบน


ในมอต้องมีโรงอาหาร และมันต้องถูกในราคานักศึกษาแน่นอน เลยถามคนแถวนั้น
ให้เดินออกนอกตัวตึก ตรงไปเรื่อยๆจะเจอแคนทีนค่ะ อยู่นี่เอง (มองออกไปตรงกระจก เห็นตึกติ่มซำมั้ยคะ)

บรรยากาศเหมือนฟู้ดคอร์ทในห้าง สะอาดสะอ้าน อาหารหลากหลายค่ะ ทั้งฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น


ของเราได้อาหารญี่ปุ่นมาค่ะ ชามละ 3.8 SGD เกือบๆ 4 SGD จำราคาไม่ได้


ตบท้ายด้วย Ice kachang 1.5 SGD เท่านั้น



Sungei Buloh wetland Reserve 

เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำค่ะ ส่วนเราก็มองหาที่เที่ยวแนวธรรมชาติๆในสิงคโปร์
จนมาเจอที่นี่ ที่น่าสนใจสำหรับเราคือ ที่นี่มีจระเข้ค่ะ เราอยากเห็นจระเข้ ก็เลยตัดสินใจมาที่นี่ ฮ่าๆ

การเดินทาง นั่ง MRT สายสีแดงมาลง สถานี Kranji อยู่ทางตอนเหนือของเกาะใกล้ๆกับ Woodland
จากนั้นต่อรถบัสสาย 925 มาประมาณ 15 นาทีค่ะ  ลงป้าย Kranji Reservoir Pk B (49199)
ลงรถแล้วเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามค่ะ จะมีประตูทางเข้าค่ะ

แต่วันที่เราไปฝนตกกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์สุดๆ ><

ทางเข้าค่ะ


แวะดูแผนที่กันหน่อย เนื่องจากเย็นแล้วแถมฝนตก เราเลยเดินแค่ช่วง coastal boardwalk เท่านั้น
ไม่ได้เดินไปข้างในที่เป็นส่วนของทางเดินดูนกค่ะ  สำหรับ Sungei buloh เราถามเพื่อนที่เป็นคนมาเลย์
เค้าบอกว่า อ่านว่า ซุนไง บุโละ เราอ่าน ซันไก บูโละค่ะ ฮ่าๆ
เพื่อนบอกว่า ซุนไง แปลว่า แม่น้ำ บุโละ แปลว่า ไม้ไผ่ค่ะ ได้ความรู้ใหม่ ^^
เดินกางร่มไปดูกันค่ะ



ทางจะเป็นประมาณนี้


มาถึงจุดที่เรียกว่า Eagle point ค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นมาเลย์ อยู่ใกล้แค่นี้เอง
ในทะเลมีชาวประมงหาปลาอยู่ค่ะ


เดินต่อไปเรื่อยๆ ยังไม่เจอจระเข้ค่ะ เจอแต่ป้ายเตือน


กางร่มเดินไปเรื่อยๆ



สุดทางเดินนี้ก็หมดแล้วค่ะ หกโมงกว่าแล้ว ที่นี่ปิดทุ่มนึง ก็เลยไม่ได้เดินต่อ
ด้านล่างคือวิวขากลับ สรุปวันที่ไปไม่เจอจระเข้ค่ะ ฮ่าๆ แต่ที่นี่ธรรมชาติดี ไม่เสียค่าเข้าด้วยค่ะ
ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากในเมือง มาเดินเล่นที่นี่ได้ค่ะ


Changi Beach Park 

จากทริปปั่นจักรยานที่เกาะ Ubin ตามรีวิวนี้ >> http://journeyofarrow.blogspot.sg/2018/04/im-lost-in-pulau-ubin-singapore2018.html เช้าวันถัดมาเราก็ไปที่ชายหาดค่ะ อยากไปดูเครื่องบินแลนด์ดิ้ง
แต่แต้มบุญไม่ดี เครื่องบินไม่ได้แลนด์ฝั่งนี้ ฮ่าๆๆ ก็เลยตัดใจ ไม่เป็นไรเดี๋ยวมาใหม่

หลังจากนั้นเดือนถัดมา เราไปที่ Marina barrage มาค่ะ เห็นเครื่องบินเทคออฟจากฝั่งซ้ายมือ
แสดงว่าอีกฝั่งเครื่องบินต้องแลนด์ นั่นคือฝั่งชายหาดนั่นเอง
วันถัดมาเรานั่งรถเมล์กลับไปที่ชายหาดอีกครั้งค่ะ ^^

วันที่ไปคือ 18 พ.ค. 61 ค่ะ

การเดินทาง ของเราเริ่มจาก MRT Lavender สายสีเขียวค่ะ เพราะแวะไปกินข้าวก่อน
แล้วต่อรถเมล์สาย 2 ไป Changi Village สุดสายเลย ลงข้างๆฟู้ดคอร์ทแล้วเดินต่อไปที่ชายหาดค่ะ

ในที่สุดก็ได้ดู ^^ เครื่องบินแลนด์ฝั่งชายหาดจริงๆด้วยค่ะ


ซ้ายมือฝั่งตรงข้ามเป็นเกาะ Pulau Ubin ค่ะ และฟ้าก็ครึ้มเชียว ><


Welcome home ค่า #Singaporeairlines


Qatar ก็มา ^^
นั่งจิบน้ำอ้อยจนหมด เจอร้านเช่าจักรยานใกล้ๆนี่เอง ก็เลยเช่าจักรยานปั่นค่ะ


มีจักรยานหลายแบบ ของเรายังคงคอนเซ็ปต์มินิมอล จักรยานญี่ปุ่นค่ะ ^^
8 SGD ปั่นได้ 2 ชั่วโมง


ปั่นไป...ส่อง(เครื่องบิน)ไปค่ะ ^^  Jetstar  ว่าไง


เหมือนท้องฟ้าวิปริต แปรปรวนทันใด !!!



มาแล้วๆ Swiss air




ปั่นไปอีกค่ะ ไม่ค่อยมีคนเลย อาจเป็นเพราะเย็นวันศุกร์ แถมฝนกำลังจะตก ><


ปั่นมาจนถึงตรงนี้


แล้วก็ตัดสินใจปั่นกลับค่ะ ต้องเอาจักรยานไปคืนแล้ว แถมฝนกำลังจะมาจ้า !!


ระหว่างทางเจอ Qantas


เจอพี่เบิ้ม ปลาวาฬ A380  ของเจ้าบ้านด้วย


Scoot ^^


ใกล้ได้เวลาก็แวะเข้าห้องน้ำค่ะ แล้วเอาจักรยานไปคืน เสร็จแล้วก็เดินไปขึ้นรถเมล์ที่ข้างๆฟู้ดคอร์ทที่เดิม นั่งกลับเข้ามาในเมือง ฝนตกกระหน่ำซัมเมอร์สุด! โชคดีตอนที่เราปั่นจักรยานยังไม่ตก ^^

เดี๋ยวถ้ามีเพิ่มเติมที่ไหนอีก จะมารีวิวให้ได้อ่านนะคะ ^^
ปิดท้ายด้วยภาพนี้ ^^


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หวังว่าจะเป็นไอเดียให้เพื่อนๆที่กำลังหาที่เที่ยวในสิงคโปร์ที่ไม่ใช่แนว tourist attraction นะคะ ^^

แวะไปพูดคุย สอบถามกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/Journeyofarrow/?ref=bookmarks