รีวิว : Sleep box by Miracle ดอนเมือง

สวัสดีค่ะ ^^

พอดีมีโอกาสได้ใช้บริการ Sleep box by Miracle ซึ่งอยู่ภายในอาคารผู้โดยสารของสนามบินดอนเมืองค่ะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อน ระหว่างรอขึ้นเครื่อง หรือเพิ่งบินกลับมา แต่ไม่อยากออกไปนอกสนามบิน ไม่อยากนอนเก้าอี้ หรือพื้นเย็นๆ รวมไปถึงแอร์ที่เย็นมากจนหนาวโดยเฉพาะตอนกลางคืน
จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันค่ะ

สำหรับครั้งนี้ เราต้องขึ้นเครื่องไปมาเก๊าค่ะ เครื่องออก 06.35 น. ซึ่งต้องเผื่อเวลาด้วย ก็เลยจะไปนอนสนามบินเหมือนที่เคยทำ แต่จากการนอนหลายๆครั้งพบว่าแทบไม่ได้นอน กลัวของหาย แอร์เย็น ไฟส่องหน้า เสียงประกาศที่ดังอยู่ตลอดเวลา พอไปถึงที่หมาย เราเช็คอิน นอนก่อนเลยค่ะ
แต่มาเก๊ารอบนี้ ไปแบบ one day trip ค่ะ ก็เลยกลัวจะไม่ไหว เลยหาที่นอนก็เลยมาลงตัวที่นี่ค่ะ

Sleep box จะอยู่ที่อาคาร 2 ขาออกในประเทศนะคะ
มองขึ้นไปชั้น 2 จะเจอเลย แบบนี้


เราจองผ่าน booking.com ค่ะ ราคา 3 ชั่วโมงแรก 1500 บาท ชั่วโมงต่อไปคิดเพิ่ม ชั่วโมงละ 300 บาท
เรานอน 4 ชั่วโมงค่ะ ต้องตั้งแต่เที่ยงคืนถึง ตี4
มาถึงสนามบิน สี่ทุ่มครึ่ง ก็เดินไปถามพนักงาน เค้าบอกว่าเช็คอินแล้วเข้าได้เลย แต่เรายังไม่อยากเช็คอินตอนนี้ อยากออกมาสักตี่4 ก็เลยไปเดินเล่นก่อน ประมาณ ห้าทุ่มครึ่งก็เดินไปเคาท์เตอร์ค่ะ


ราคาตามนี้เลย


พนักงานใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส สุภาพดีค่ะ เราจองผ่าน booking.com ค่าห้องจะตัดผ่านบัตรเลย
แล้วเราขอพักเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง ก็จ่ายเพิ่ม อีก 300 บาทค่ะ จ่ายผ่านบัตรไป  เพราะเงินไทยไม่พอ เราแลกเป็นเงินมาเก๊าไปแล้ว

ส่วนกุญแจก็มีมัดจำ 300 บาทค่ะ เราสตั๊นท์แป๊บนึง เค้าก็เลยบอกว่าขอเป็นบัตรประชาชนไว้ก็ได้ค่ะ ^^


ไปไหนดี ^^



รับกุญแจแล้วเดินมาหน้าห้องค่ะ จะมีแม่บ้านคอยรอรับอยู่ เค้าจะเปิดประตูให้
ด้านในแบ่งเป็นหลายห้องเล็กๆติดๆกันเลย



ไปดูห้องกันค่ะ ห้องเรา 222


ล็อคห้องแล้ว


เตียงนอนของฉัน


ทีวี แต่ไม่ได้เปิดดูเลย

ถ้าม่านเปิดออกไปจะเป็น ถนนฝั่งวิภาวดี ด้านหน้าสนามบินนี่เองค่ะ
ห้องฝั่งตรงข้ามจะไม่มีหน้าต่างค่ะ


หัวเตียงกันบ้าง


มีน้ำให้สองขวดค่ะ


มาดูห้องน้ำกันบ้าง กว้างดีค่ะ มีของใช้ในห้องน้ำด้วยค่ะ พวกหมวกอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด สบู่เหลว
มีโลชั่นด้วยค่ะ



ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม


สำหรับความคิดเห็นของเรา

สะดวก สบาย ดีมากค่ะ เตียงนุ่ม แอร์เย็น สะอาด เครื่องใช้ในห้องน้ำจัดเต็ม
มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ตอนเราอาบ ไม่อุ่นเท่าไหร่ (อาจจะปรับไม่เป็นเอง - -" )
ดึกๆแอร์เย็นค่ะ  ตอนกำลังจะหลับ จะได้ยินเสียงประกาศในสนามบินดังอยู่เป็นระยะ
แต่ถ้าหลับแล้ว ก็ไม่มีปัญหาค่ะ ห้องมืดสนิทดี ชอบมาก
เราเช็คเอาท์ตี4  ตอน ตี 3.45 น. พนักงานจะโทร.มาปลุกค่ะ บอกว่าอีก 15 นาทีเช็คเอาท์
ไม่ต้องกลัวหลับยาว ตี4 ออกจากห้องเดินไปคืนกุญแจ ได้บัตรประชาชนคืน แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
เดินไปเช็คอินที่เทอมินอล1 ได้สบายๆ ไม่ต้องรีบเลย

แต่ราคาแอบแรง *O* สามชั่วโมงแรก 1500 บาท ชั่วโมงต่อไป 300 บาท
ห้องนึงพักได้สองคน ถ้ามากับเพื่อนแล้วหารกัน ราคาโอเคเลยค่ะ ถ้าแลกกับความสะดวกสบาย
ถ้าอาบน้ำเฉยๆ คิด 300 บาทค่ะ *O*  โดยรวมเราพอใจกับสิ่งที่ได้รับนะคะ
เพราะทำให้เราไม่เพลีย ตอนไปถึงเที่ยวมาเก๊า ถ้าไม่ได้นอนเลยน่าจะเที่ยวไม่สนุก ^^

เผื่อเป็นทางเลือกในการค้างที่สนามบินนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^

รีวิวมาเก๊า one day trip >> https://journeyofarrow.blogspot.com/2017/09/macau-one-day-trip-2017.html

แวะไปพูดคุย/ สอบถามกันได้ที่ >>  https://www.facebook.com/Journeyofarrow/

บินเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า :: Macau One day trip #2017

สวัสดีค่ะทุกคน^^

ไปเที่ยวกลับมาอีกแย้ว ฮี่ๆๆๆ ^^ ทริปนี้ที่รอคอย คอยจน(เกือบ)ลืม มีรีวิวมาฝากเผื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆที่จะเดินทางไปเที่ยวมาเก๊า แต่มาดูแบบฉบับของเรา จะเป็นอย่างไรนั้น
เริ่มจากเราไปฮ่องกงหลายรอบ แต่ยังไม่เคยข้ามไปมาเก๊าเลย ก็เลยอยากไปมานานละ บวกกับตอนนั้นเซ็งๆชีวิต แล้วช่วงเดือนกุมภา แอร์เอเชียมีโปรมาเก๊าออกมาพอดี ไป-กลับ 21XX บาท บวกค่าตัดบัตรไปอีก เราจ่ายไปประมาณ 2300 บาทค่ะ และโรงแรมที่มาเก๊าแพง สตาร์ทคืนละเกือบ 2000 ก็เลยไม่ค้าง ไป-กลับเลยละกัน  ไม่เคยone day trip ตปท.เลย นี่ครั้งแรกเลยค่ะ

จะปัง!! หรือจะพัง!! มาดูกัน ^^

รีวิวล่าสุด >> บินเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง เวอร์ชั่นติด ตม.ฮ่องกง2019 คลิกเล๊ย >> https://journeyofarrow.blogspot.com/2019/01/2019.html

20 ข้อ...มาเก๊าที่ฉันเห็น   >>>>  https://www.facebook.com/Journeyofarrow/photos/a.1161490613879320.1073741828.1161356250559423/1835289313166110/?type=3&theater


จองไปตอนกุมภาค่ะ โปรเริ่มช่วงเดือนกันยา และแน่นอนหน้าหนาวปลายปี ไม่เห็นโปรเลย ก็เลยมาจบลงที่เดือนกันยา(ก็ได้ - -") อากาศน่าจะร้อนอยู่ แต่เพื่อตั๋วถูกก็ยอมค่ะ ฮี่ๆ

**เดินทางเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560

การเตรียมตัว
พาสปอร์ต : พาสปอร์ตไทยสามารถเข้ามาเกีาได้เลย อยู่ 30 วัน และต้องมีอายุพาสปอร์ตเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือนค่ะ
ภาษา : จีน (ไม่แน่ใจว่ากวางตุ้งหรือจีนกลางค่ะ) อังกฤษ โปรตุเกส
ค่าเงิน : ใช้เงิน MOP ค่ะ 1 MOP ประมาณ 4 บาท เท่าๆกับฮ่องกงแต่ถูกกว่านิดหน่อย
ไปวันเดียวแลกไป  200 MOP กับ 200 HKD ค่ะ (ทั้งหมดประมาณ 1600 บาท)


สภาพอากาศ : ปลายเดือนกันยายน ร้อนค่ะ วันเราไปไม่เจอฝนเลย แนะนำมาหน้าหนาวดีกว่าค่ะ ^^

นี่คือรายละเอียดการเดินทางของเราค่ะ

จองนานเกินจนเกือบลืม น่าจะเผลอลบเมล์ไปแล้ว ก็เลยให้คอลเซ็นเตอร์ส่ง e-ticket มาให้ใหม่ค่ะ
ไปไฟลท์เช้าสุด กลับเกือบดึกสุด อยากกลับไฟลท์ดึกสุดแต่ราคามันพุ่งไปแล้วค่ะ ก็เลยได้ไฟลท์กลับเป็นรอบทุ่มห้าสิบค่ะ


เนื่องจากไฟลท์ขาไป เช้ามาก หกโมงครึ่งกลัวไปไม่ทันเลยไปนอนสนามบินค่ะ  เคยนอนสนามบินหลายรอบแล้วรู้สึกว่าเพลียมากค่ะ พอไปถึงปลายทางแล้วเข้าที่พัก นอนก่อนเลย แต่รอบนี้ไม่ได้ค้างค่ะ เครื่อลงแล้วเดินเที่ยวต่อเลย ก็กลัวจะไม่ไหว เลยหาที่นอน สุดท้ายไปลงตัวที่ Sleep box ที่ดอนเมืองค่ะ
ราคาก็จะโหดๆหน่อย 3 ชั่วโมงแรก 1500 บาท ชั่วโมงต่อไป 300 บาท เรานอน 4 ชั่วโมงค่ะ
เที่ยงคืน ถึงตีสี่ โดนไป 1800 บาท !!!(กรีดร้อง T^T) รู้งี้ไปนอนที่มาเก๊าดีกว่า ค้างคืนนึงจะได้ไม่รีบ
แต่ความงกครอบงำค่ะ จองไป-กลับวันเดียวซะงั้น แต่ชีวิตต้อง move on ต่อไปค่ะ

พร้อมแล้วออกเดินทางกันค่ะ

คืนวันที่ 26 เรานั่ง shuttle bus จากสุวรรณภูมิไปดอนเมือง ถึงประมาณสี่ทุ่มครึ่ง
รีวิว Shuttle bus สุวรณภูมิ - ดอนเมือง >> http://iflytosky.blogspot.com/2016/08/shuttle-bus.html

เดินโต๋เต๋ อยู่เทอมินอล 1 ประมาณนึงก็เดินมาที่ sleep box ค่ะจะอยู่ชั้น 2 ของเทอมินอล 2 เป็นอาคารขาออกภายในประเทศ คนโล่งเชียวค่ะ


4 ชั่วโมง>>พันแปด!! ฝันดีค่ะทุกคน คร่อกฟี้ zZZ

รีวิว Sleep box ดอนเมือง >> https://journeyofarrow.blogspot.com/2017/10/sleep-box-by-miracle.html


ตัดฉับมาตอนเช้าเลย เช็คเอาท์ตี 4 เป๊ะ! ออกจากห้องก็เดินไปเทอมินอล 1 สะดวกมากเลย
สดชื่นด้วยค่ะ ได้นอน ได้อาบน้ำ จะได้มีแรงเที่ยว ฮี่ๆ เช็คอินได้ boarding pass มาแล้ว ผ่านตม.มาเลยค่ะ  ไม่ต้องกรอกใบขาออกแล้วค่ะ สะดวกดี

ขั้นตอนขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ : ดอนเมือง >> http://iflytosky.blogspot.com/2015/12/blog-post.html

เข้ามาในเกทแล้ว ยังเช้าอยู่ ท้องก็หิวหน่อยๆ เลยจัดมาม่ามาแบบเบาๆ( แต่ราคาไม่เบา)
มาม่า 50บาท น้ำ 25 บาทค่ะ


นั่งเล่นอยู่หน้าเกท รอเรียกขึ้นเครื่อง ฟ้าสางที่ดอนเมืองค่ะคุณผู้ชม!! ลำนี้ไปบาหลีค่ะ
มิน่าฝรั่งเต็มเลย *O*


เครื่องออกแล้ว บ๊ายบายไทยแลนด์ (เจอกันใหม่ตอนค่ำๆ ฮ่าๆ เดี๋ยวกลับมาจ้า)


ไต่ระดับได้ที่ อาหารไม่ได้สั่ง ขนมก็ไม่ซื้อ หลับสิคะ รออะไร 55555+ คร่อกฟี้ๆๆ
ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เริ่มลดระดับแล้วค่ะ
มาเก๊า....เก๊ามาแย้วววววว!!!


ถึงแล้วววว!!!! ฟายนอลลลลี่ อัมเฮียร์ >> มาเก๊าค่าาา ^^
ภาษาโปรตุเกสก็มาจ้า


เครื่องลงตรงเวลาค่ะ อย่าลืมปรับเวลานะ ที่มาเก๊าเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ^^
ลงจากเครื่องมีรถบัสมารับค่ะ นึกว่าจะไกล วิ่งมาจิ๊ดเดียว ก็ถึงเทอมินอล ลงจากรถคือ เจอตม. เลยค่ะ
สนามบินเล็ก มินิมาก ขาเข้ามาเก๊าไม่ต้องกรอกใบอะไรเลยค่ะ เรายื่นพาสปอร์ตกับบอร์ดดิ้งพาสไป
ไม่ถามอะไรเลยค่ะ แล้วก็เดินออกมา จะเจอป้ายบอกไปท่ารถ shuttle เราจะเข้าเมืองแบบไม่เสียตังค์ซักบาทค่ะ โดยโปรแกรมของเราวันนี้คือไปซากโบสถ์เซนต์ปอล กับเวเนเชี่ยนค่ะ

เดินออกมาแล้วมองป้าย Hotel shuttle  เลยค่ะ ออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายเดินมาจนสุด
มองไปด้านนอกอาคาร จะเห็นรถของโรงแรม/คาสิโนต่างมาจอดรอรับผู้โดยสาร


จากสนามบินไป Senado Square เราใช้บริการของ City of dream ค่ะ ขอเรียกย่อๆว่า COD
นั่งรถจากสนามบินไป COD จากนั้นต่อรถจาก COD ไปโรงแรม Grand Emperor  ซึ่งจากโรงแรมนี้เดินไปเซนาโด้สแควร์ได้ค่ะ เดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

เดินออกมาแล้ว มีป้ายบอกชัดเจน ฝั่งนู่นเป็นรถไปเวเนเชี่ยนค่ะ


ขึ้นมาบนรถมีเจ้าหน้าที่คอยถามว่าไปไหน เค้าพูดจีนค่ะ แต่เราฟังไม่รู้เรื่องนะคะ ก็พูดไปเลยว่า City of dream ฮ่าๆ เค้าก็พยักหน้าค่ะ

นั่งรอแป๊บเดียวรถก็ออกค่ะ สะอาด ใหม่ ที่ดีไปกว่านั้นคือ Free Wi-fi ค่าคุณผู้ชม



ระหว่างทาง


จากสนามบินมา COD ไม่ไกลเลยค่ะ 10 นาทีก็ถึงแล้ว

รถมาจอดด้านหน้าแบบนี้
เดินเข้าไปเลยค่ะ


จะเจอคาสิโนอยู่ตรงหน้า


ส่วนรถ shuttle bus ไปโรงแรมต่างๆจะอยู่ด้านล่างค่ะ ขวามือจะเจอบันไดเลื่อน ให้ลงบันไดเลื่อนตรงนี้ลงไปเลยค่ะ


เดินลงมาจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ถามว่าไปไหน เค้าก็จะบอกให้เราไปยังจุดขึ้นรถค่ะ
แนะนำ ช่วยเหลือดีมากเลยค่ะ สำหรับโรงแรม Grand emperor ขึ้นรถตรงนี้เลย รถรอบแรก 11.30 น. ค่ะ
ตอนที่ลงมาเพิ่งจะ 11 โมงก็เลยไปเดินเล่น เข้าห้องน้ำก่อนค่อยออกมารอรถค่ะ


ใกล้ได้เวลาเลยออกมารอรถ คนเริ่มมารอเยอะเลยค่ะ จากนั้นรถก็มารับ ไม่ต้องโชว์เอกสาร/ใบจองดรงแรมอะไรทั้งนั้นค่ะ รถออกตรงเวลาค่ะ ไปกันเลย

ตรงข้าม COD เป็นเวเนเชี่ยนค่ะ เดินข้ามถนนมาได้เลย


รถวิ่งมาเรื่อยๆ ข้ามสะพานด้วย


วิวดีมาก Hello World สุดๆ!!! ^O^


ตึกไกลๆนู่น คือ Lisboa มาเก๊าค่ะ มีทั้งโรงแรมและคาสิโน


ผ่านมาเก๊าทาวเวอร์ด้วย


ใช้เวลาไม่นานค่ะ 10-15 นาทีก็มาถึงหน้าโรงแรม Grand Emperor จากจุดนี้สามารถเดินไปเซนาโด้สแควร์ได้ค่ะ ขากลับก็ทำเหมือนเดิม มาขึ้นรถตรงนี้กลับ COD ค่ะ


เราลงมาแล้วก็ยัง งงๆค่ะว่าเซนาโด้ไปทางไหน ก็อาศัยว่าเดินตามชาวบ้านเค้ามาค่ะ ฮ่าๆ ดูท่าทางแล้วน่าจะเดินไปเซนาโด้สแควร์ค่ะ ตามเค้าไปเลย แต่เราก็เปิดแผนที่ในโทรศัพท์ดูตลอดค่ะ ว่าถึงตรงไหนแล้ว
ปล. มามาเก๊าเราไม่ได้ซื้อซิมเล่นเน็ทค่ะ

อากาศร้อนได้ใจ ร้อนสุด มาถึงเกือบเที่ยงพอดี แดดแรงได้อีก
แต่คิดว่าดีกว่าฝนตกค่ะ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ^^

เดินตามเค้ามาเรื่อยๆ
บ้านเมืองคล้ายๆฮ่องกงค่ะ แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว


ฝั่งตรงข้ามเจอตึกเหลืองๆ น่าจะใช่เซนาโด้สแควร์ค่ะ เดินข้ามถนนไปดูกัน


ข้ามมาแล้วเป็นแบบนี้ เที่ยงแล้ว แดดร้อนมากค่ะ


เดินตามทางไปเรื่อยๆค่ะ



ด้านข้างก้มีร้านขายของ ร้านแลกเงินต่างๆ ร้านเครื่องสำอาง Sasa กับ Bonjour ก็มีค่ะ
นักท่องเที่ยวมาเรื่อยๆเลย แต่ไม่พลุกพล่านมาก น่าจะเป็นเพราะมาวันธรรมดาด้วย

เราได้โปสการ์ดมาด้วยค่ะ ใบละ 3 MOP เดี๋ยวเขียนส่งให้ตัวเองก่อนกลับ ^^


ซื้อของฝากเสร็จ ถึงภารกิจหลักเลยคือ ตามหาซากโบสถ์เซ็นปอล แลนด์มาร์คของมาเก๊านั่นเอง
มีป้ายบอกนะคะ เดินตามป้ายไปเลย


มีภาษาโปรตุเกสด้วย


โบสถ์เซนต์ดอมินิค


สุดท้ายก็หลงค่ะ มันมีทางแยกหลายทาง เราก็เดินหลงๆ ก็เลยถามคนท้องถิ่นดีกว่า เป็นพนักงานยืนถือป้ายอยู่หน้าร้าน เราเอารูปซากโบสถ์ให้ดูแล้วถามว่า "จ้ายหนาหลี่??"  เค้าก็บอกตรงไปเลี้ยวซ้าย
เราก็ขอบคุณแล้วเดินออกมา  ต้องทำเวลานิดนึงค่ะ กลัวตกเครื่องด้วย มาครั้งแรกด้วยเลยกะเวลาไม่ถูกเท่าไหร่


เดินมาจนเจอป้ายบอกทางไปซากโบสถ์ เดินเข้ามาซอยนี้เลย ร้านขายของเยอะเชียว พวกทาร์ตไข่
ขนม คุ้กกี้อัลมอนด์ หมูแผ่น พวกนี้ชิมฟรีได้เลยค่ะ เราก็แวะอีกแล้ว ฮ่าๆ วันนี้จะเจอมั้ยซากโบสถ์


เดินตรงไปเรื่อยๆก็ โอ้ว! เจอแล้วค่ะ ^^






มองไปฝั่งตรงข้ามมั่ง


เข้าไปดูด้านในกันค่ะ




ออกมาด้านหน้า เดี๋ยวเดินไปดูฝั่งนู้นกันบ้าง


อีกมุมนึง


จากจุดนี้เรานั่งพัก แล้วก้เขียนโปสการ์ดแป๊บนึง จากนั้นก็ต้องกลับไปที่เวเนเชี่ยนแล้วค่ะ
ถ้ามาหน้าหนาว น่าจะฟินกว่านี้ เดินชิวๆ แต่นี่ร้อนมาก แต่ก็ดีกว่าฝนตกค่ะ ^^

เค้ามีงานอะไรกันด้วยนะวันนี้


แถวๆหน้าซากโบสถ์มีร้านขายของเยอะแยะเลยค่ะ ไหนๆก็มาแล้ว ลองชิมทาร์ตไข่ซิ
อันนี้ชิ้นละ 10 MOPค่ะ อุ่นเลย เข้มข้น ไส้ทะลัก


แล้วก็เดินกลับทางเดิมค่ะ แวะส่งโปสการ์ดกันก่อน
ที่นี่แยกขยะด้วยค่ะ ดีจัง


ตอนแรกเราไม่รู้ว่าตึกไหนนะคะ ไม่เห็นเขียนว่า post office เลย แต่ดูรีวิวคุ้นๆว่าน่าจะตึกนี้
เลยลองเดินเข้าไปดู


จะอยู่ด้านหน้าของเซนาโด้สแควร์เลยนะคะ แวะส่งโปสการ์ดกันได้
ค่าส่งกลับไทย แสตมป์ราคา 5 MOPค่ะ

จากนั้นก็เดินกลับไปขึ้นรถที่รร. Grand Emperor ค่ะ


ระหว่างทาง


เป็นระเบียบเรียบร้อยดีค่ะ สะอาดสะอ้าน
เรานั่งพักอยู่แถวนี้ ข้างๆ รร.Grand Emperor ก่อนเดินไปขึ้นรถ จุดเดียวกับที่นั่งมาลง


เกือบบ่ายสามแล้ว เลยนั่งรถกลับค่ะ รอแป๊บเดียวรถก็ออกค่ะ

บรรยากาศภายในรถ


ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึง COD ที่เดิม เราใช้วิธีเดินข้ามไปเวเนเชี่ยนค่ะ อยู่ตรงข้ามกันนี่เอง
ถ้าข้ามมาจากฝั่ง COD ตรงนี้จะเป็น Main lobby ค่ะ เข้ามาข้างในเป็นแบบนี้


ยังไม่เจอคลองเวนิชค่ะ ต้องเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปอีก
เดินตามป้ายไป ข้างในใหญ่มากค่ะ เดินขาหลุด ฮ่าๆ


เจอแล้ว เป็นแบบนี้


มีเรือกอนโดล่าด้วย








ร้านขายของฝาก


หิวแล้วค่ะ เกือบสี่โมงเย็นแล้ว ก็เลยเดินหาฟู้ดคอร์ท อาหารแพงค่า เริ่ม 65-70 MOP อย่าคูณ 4 เข้าไปเชียว แต่ก็ต้องทานค่ะ เพราะกว่าจะถึงไทยก็ดึกแล้ว เมื่อเช้าทานมาแค่มาม่าถ้วยเดียว T^T


เงินมาเก๊าเราไม่พอค่ะ ข้าวห่านย่างจานละ 80 MOP เลยถามว่าใช่เงินฮ่องกงได้มั้ย เค้าก็รับค่ะ แต่จะทอนมาเป็นเงิน MOP นะคะ  เรามีประสบการณ์ในการสั่งข้าวห่านย่างแล้วค่ะ หลังจากที่ไม่รู้ว่าห่าน ภาษาอังกฤษคือ Goose ฮ่าๆๆ
(อ่านความฮาของเราได้ที่ >> https://journeyofarrow.blogspot.com/2016/12/4-3-part-22.html)

จัดไปค่ะ ข้าวห่านย่าง 80 MOP !!!! ที่นี่ที่ไหน?? นี่เวเนเชี่ยนนะคะคุณผู้ชม  T^T

จานละ 300 กว่าบาท!!! ได้เยอะอยู่ค่ะ กินหมดเลย ยกเว้นผัก *O*


ทานเสร็จแล้วประมาณสี่โมงครึ่งก็เริ่มหนาวแล้วค่ะ แอร์เย็น เลยจะออกไปด้านนอก แต่จำทางไม่ได้ ข้างในใหญ่มาก จากฟู้ดคอร์ทเดินลงบันไดเลื่อนไปด้านล่างก็เจอกับคาสิโน พร้อมทัวร์จีนแผ่นดินใหญ่ที่เข้ามาอย่างมากมาย *O* เราเดินวนไปวนมา หาทางออกไม่เจอ ตรงที่เข้ามาครั้งแรกเลยเดินไปถามพนักงานที่ืยืนอยู่ตรงทางเข้าคาสิโน  เค้าก็บอกให้ออกทางออก Main lobby (ตอนแรกที่เข้ามาไม่รู้เรียกว่า Main lobby) เพราะมีทางเข้าหลายทางมากค่ะ

เกือบห้าโมงเดินออกมา ฝั่งตรงข้ามเป็น City of dream อย่างที่บอก


ป้ายใหญ่มากค่ะ


ขวามือฝั่งนู้นเป็น The Parisian ค่ะ เห็นยอดหอไอเฟล แวบๆ
ไม่ได้เดินไปถ่ายรูปค่ะ เหนื่อย วันนี้พอละ ไว้รอบหน้าละกัน


จากนั้นห้าโมงครึ่งก็ได้เวลากลับ แง๊!!!!
เดินเข้ามาทาง Main lobby จะเจอป้ายบอก Airport shuttle เลี้ยวซ้ายเจอประตู ถามพนักงานที่เปิดประตูให้ว่ากลับสนามบินขึ้นรถตรงนี้รึเปล่า เค้าก็ให้ความช่วยเหลือดีค่ะ บอกให้ไปยืนรอตรงนี้ ^^


รอบเวลารถออก ตามนี้


ยืนรอแป๊บเดียวรถก็มาค่ะ สีน้ำเงินแบบนี้เลย


วิ่งแป๊บๆก็มาถึงสนามบิน จอดที่จุดเดิมเหมือนตอนเช้า

เดินเข้ามาในเทอมินอลเลยค่ะ เคาท์เตอร์เช็คอินอยู่ชั้น 2

เช็คอินได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว ยังไม่เข้าเกทค่ะ เลยซื้อชานมไข่มุกไต้หวันมานั่งกินด้านนอกเทอมินอลก่อน

ยามเย็น
คนนี้น่าจะเพิ่งเลิกงาน กำลังเดินกลับบ้าน


รันเวย์ยื่นออกไปในทะเลค่ะ ตรงนี้ลมเย็นดี ^^
สูดหายใจลึกๆ พร้อมสู้กับวันต่อไป เฮือก!!!!


เริ่มมืดละไปรอในเกทดีกว่า คนเยอะเชียวค่ะ สำหรับน้ำดื่ม ในเกทมีตู้กดน้ำด้วยนะคะ


ทุ่มกว่า เลยเวลาบอร์ดดิ้งแล้วค่ะ นึกว่าตกเครื่องคนเดียว - -" เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ เค้าบอกว่าดีเลย์ เครื่องมาลงช้า *O* รอวนไปค่ะ

แล้วเครื่องก็มารับเรา จบทริปอย่างเพลียร่าง แต่สนุกดีค่ะ คิดถูกที่ได้มา หลงรักมาเก๊า^^ แฮปปี้ !!
บาย มาเก๊า แล้วเราจะพบกันใหม่...สัญญา ^^


สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆของเรานะคะ

ค่าตั๋วไป-กลับ 2300 บาท
ค่าโรงแรม sleep box 1800
ค่ารถในมาเก๊า ฟรี
แลกเงินมา 1600 เหลือกลับประมาณ 600 บาท = ใช้ไป 1000 บาท
(ค่าขนม+ ค่าน้ำ +ค่าโปสการ์ด+ ค่าของฝาก+ ค่าข้าวห่านย่าง)

รวม  5100 บาทค่ะ ถ้าไม่นอนโรงแรม ก็ประหยัดไปอีก (ทั้งทริปก็จะประมาณ 3000 บาทไม่รวมของฝาก)
แต่ถ้าไม่นอนเลย จะเพลียมาก พูดเลยค่ะ ฮ่าๆ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีค่ะ^^

E-book แชร์ประสบการณ์ลูกเรือสำราญ 239 วัน >>
Mebmarket >> https://www.mebmarket.com/ebook-127839-บันทึก-239-วัน-เมื่อฉันเป็นลูกเรือสำราญ

มีคำถามสงสัย/ สอบถาม /คุยกันได้ที่ >>  https://www.facebook.com/Journeyofarrow/