Singapore No Plan#2019

สวัสดีค่ะทุกคน ^^

กลับจากสิงคโปร์รอบนี้ มีรีวิวมาฝากอีกแล้วค่ะ เนื่องจากคิดถึงสิง และสายการบินสกู๊ตมีโปร
ก็เลยมือลั่น จองไป ฮ่าๆ จริงๆตั๋วเริ่มที่ 1200 แต่คิดนานไปหน่อย เลยพุ่งเป็นเที่ยวละ 1400 บวกตัดบัตร
กลายเป็น 1580 ค่ะ ส่วนขากลับ ใช้บริการของแอร์เอเชียค่ะ เที่ยวละ 2254 รวมตัดบัตร
เป็นการจองแบบจองแล้ว บินอาทิตย์หน้าเลยค่ะ อยากไปอย่างแรง ฮ่าๆ

พร้อมแล้วไปกันเลยค่า ^^
*ออกเดินทางเมื่อ 9-12 ตุลาคม 2019


ไฟลท์ขาไปเป็นรอบดึกสุดค่ะ 22:50 น. ไปถึงดอนเมืองสองทุ่ม คนต่อแถวยาวมาก แต่รอไม่นานมากค่ะ
ขอที่นั่งริมหน้าต่างไป ก็ได้ตามคำขอค่ะ ^^

สำหรับขั้นตอนขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศสำหรับมือใหม่ เข้ามาอ่านได้ที่รีวิวนี้เลยจ้า >> http://iflytosky.blogspot.com/2015/12/blog-post.html

ขึ้นมาบนเครื่องแล้ว เหมาหมดทั้งแถวค่ะ
เป็นเครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 787 Dream liner


นั่งมาสองชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงสนามบิน Changi ค่ะ เวลาที่สิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงค่ะ
อย่าลืมปรับเวลา รอบนี้เรายังไม่ผ่าน ตม.ค่ะ จะรออยู่ข้างในนี้จนถึงเช้า ครั้งแรกที่รออยู่ด้านในค่ะ
ไม่รู้ตอนเช้าไปผ่านตม. เค้าจะว่ายังไงมั้ยนะ


ไปหาที่งีบกันค่ะ สำหรับเราลง ที่เทอมินอล2 เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ จนเจอบันไดเลื่อนลงไป ตม. อย่าเพิ่งลงไปค่ะ เลี้ยวขวามา เดินไปนิดนึง จะเจอบันไดเลื่อนขึ้น ทางไปสวนดอกทานตะวัน (Sunflower Garden)


เดินตามป้ายไป จะเป็นโซนentertainmentค่ะ ด้านนอกเป็นสวนดอกทานตะวัน ถ้าเดินไปในสุดจะเป็นโรงหนังเล็กๆ  ของเราปักหลังตรงนี้ มีห้องน้ำ มีปลั๊กไฟ ตรงนี้จะไม่สว่างเท่านอนหน้าเกทค่ะ
ไฟที่เห็นนี่ พนักงานเพิ่งมาเปิดตอนตีห้าค่ะ


เรารอจนหกโมง ไปล้างหน้าแปรงฟันก็ลงไป ตม. ค่ะ หกโมงคนอย่างโล่ง เจ้าหน้าที่ใจดีนะคะ
ไม่ได้ถามอะไรมาก นึกว่าจะถามว่าไฟลท์ลงตั้งนานแล้วทำไมเพิ่งออกมา
สุดท้ายก็ผ่านฉลุยค่ะ ไปเข้าเมืองกัน รอบนี้ไม่ซื้อ ez-link ค่ะ เพราะโนแพลน ยังไม่รู้จะไปไหนบ้าง
ก็เลยลงไปซื้อบัตร Singapore tourist pass แบบ 3 วันค่ะ ราคา 30 เหรียญ ใช้ได้ 3 วัน วันกลับเอาบัตรไปคืน จะได้ค่ามัดจำคืน 10 เหรียญค่ะ สรุปเสียค่าบัตรนี้ไป 20 เหรียญค่ะ ขึ้นได้ทั้งรถบัส รถไฟฟ้า
เราไม่มีแพลนไปเกาะเซ็นโตซ่าเลยไม่มีปัญหาค่ะ

พอลงไปปุ๊บ เคาท์เตอร์อยู่ที่เดียวกับสถานีรถไฟฟ้านะคะ แต่ว่า เปิด 8 โมงค่าคุณผู้ชม
รอไปก่อนค่ะ


ก็เลยไปดูน้ำตกที่ Jewel ค่ะ ห้างเปิดใหม่ข้างๆสนามบิน จากเทอมินอล2 เดินตามไปเลยค่ะ ไม่หลง ไม่งง
จากเทอมินอล2 ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาทีค่ะ

พอเข้ามาแล้วปรากฏว่า ผ่าม!!

ยังปิดอยู่ค่ะคุณผู้ชม ฮ่าๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวมาใหม่ช่วงกลางวัน


จาก Jewel เราไป เทอมินอล 3 ค่ะ หาข้าวทาน รู้สึกหิว เช้านี้ได้ Nasik lemak จากร้าน old town ค่ะ


ทานข้าวเสร็จ นั่งเล่นเน็ท เน็ทที่สนามบินฟรีและแรงค่ะ ลงทะเบียนก็แสนจะง่าย
เกือบ8โมงเราเลยลงไปข้างล่างอีกรอบนึงจะไปซื้อบัตร ได้มาแล้วค่ะ


รอบนี้ไม่นั่งรถไฟเข้าเมืองค่ะ เราจะนั่งรถเมล์เข้าเมือง
เดินตามป้าย Bus ไปค่ะ หารถเมล์สาย 36 ค่ะ สายนี้จะพาเรานั่งไปถึง Suntec cityค่ะ ตรงที่เป็นน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง

แตะบัตรตอนขึ้นรถค่ะ แล้วหาที่นั่งเลย


นั่งมาเรื่อยๆ ไม่ถึงสามสิบนาทีก็จะเจอวิวนี้ ใกล้จะได้ลงแล้วค่ะ
Hello Singapore ^^



พอเจอน้ำพุอยู่ข้างหน้าก็กดกริ่งลงเลยค่ะ แต่ของเรามีคนลงเหมือนกันก็เลยไม่ต้องกด ^^
ถึงแล้ว ^^


เดินวนๆอยู่แถวอ่าวมารีน่า เริ่มร้อนและหนักกระเป๋าเลยเอากระเป๋าไปฝากที่ hostel ดีกว่า
รอบนี้เราพักที่ spacepod@Lavender ค่ะ นั่งรถไฟจ่าก สถานี Raffle place ไปลงสถานี Lavender อยู่สายสีเขียวเหมือนกัน สามารถจองผ่าน booking.com ได้เลยค่ะ สามารถจ่ายตังค์เป็นเงินสดตอนเช็คอิน
หรือว่าบัตรเครดิตก็ได้ค่ะ ของเราจะจ่ายเป็นเงินสด

Hostel หาง่ายค่ะ อยู่ข้างๆ Traveller@SG ฝั่งขวามือ


ยังเช็คอินไม่ได้ค่ะ เริ่มเช็คอินได้ตอนบ่ายสอง ตอนนีเพิ่ง 10โมงกว่าๆ ไม่รู้จะไปไหน
บอกแล้วว่าโนแพลนจริงๆ ฮ่าๆ ก็เลยนั่งรถเมล์ไป Changi beach ค่ะ จะไปดูว่าเครื่องบินแลนด์ฝั่งชายหาดมั้ย ถ้าแลนด์ฝั่งชายหาด เดี๋ยวจะมาปั่นจักรยานดูเครื่องบินตอนเย็นค่ะ

การเดินทางแสนจะง่าย ตรงสถานี Lavender  จะมีป้ายรถเมล์ ฝั่งขาออกนอกเมืองนะคะ รอรถเมล์สาย 2
นั่งยาวๆสุดสายเลย  นั่งมาชั่วโมงนิดๆเพราะมีคนแวะลงตลอดทาง
ปรากฏว่า เครื่องบินเทคออฟข่าคุณผู้ชม - -"


โอเค ไม่เป็นไร เดี๋ยวหาข้าวเที่ยงกินที่นี่ก็ได้
ปรากฏว่า ฟู้ดคอร์ท ปิดทำความสะอาดพอดีค่ะ ฮ่าๆ โอ๊ยนี่มันวันอะไรของช้านนนน


เอ้า เกือบบ่ายสองละ ก็เลยนั่งรถเมล์กลับค่ะ ไปขึ้นที่เดิมสาย 2 ถ้าไม่อยากรอนานก็สามารถต่อ MRT
ที่สถานี Tenah Merah ได้ค่ะ เราขี้เกียจนั่งนาน เลยลงรถเมล์ไปต่อ MRT

ถึงสถานี Lavender แล้วค่ะ มาสิงคโปร์อย่าลืม"ชิดซ้าย"เวลาขึ้นบันไดเลื่อนนะคะ


แวะกินข้าว แล้วเดินไป hostel ไปเช็คอินค่ะ ใครมีกระเป๋าลากใบใหญ่ ลำบากหน่อยนะคะ เพราะไม่มีลิฟต์
แต่เรามีเป้ ก็เลยชิวๆค่ะ พนักงานใจดี  พักสองคืน 62 เหรียญค่ะ ประมาณคืนละ 680 บาท (ค่าเงินที่แลกไปอยู่ที่ 1 ดอลล่าร์ = 22 บาท) ไมีมีค่ามัดจำกุญแจค่ะ เป็นคีย์การ์ด

มาดูห้องกัน อันนี้เป็นห้องรวมนะคะ แต่ไม่มายด์ เพราะแต่ละเตียงจะมีม่านกั้น ค่อนข้างส่วนตัวค่ะ


เตียงเป็นงี้ มีผ้าเช็ดตัวให้ด้วยค่ะ มีอาหารเช้ารวมอยู่ในค่าที่พักแล้วค่ะ


เรานอนเตียงล่างค่ะ ขี้เกียจปีน
ไฟมีหลายสีค่ะ ปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ
เตียงนุ่มสบาย สะอาดดีค่ะ

ไปดูห้องน้ำหน่อย มีน้ำอุ่น มีแชมพู สบู่ให้ มีไดร์เป่าผมด้วยค่ะ ถือว่าอำนวยความสะดวกได้ดี
สำหรับแบ็คแพคเกอร์ ^^ อาบน้ำเสร็จ ไปนอนค่ะ เมื่อคืนคือเพลียร่างมาก


ตื่นมา 5 โมงเย็น ก็นั่งรถเมล์ออกมาค่ะ ไปที่ถนนใหญ่ มุดใต้ดินไปรอรถเมล์ฝั่งตรงข้ามที่จะเข้าเมืองค่ะ
นั่งสาย 133 รถเมล์จะผ่านหน้าตึกเรือ (Marina bay sands)

จะถึงแล้ว


สะพาน Helix bridge ยามเย็น


จากนั้นลงรถเมล์ก็ ไปที่ Marina barrage ค่ะ


นอนอยู่ที่นี่ชิวๆ พอเริ่มค่ำก็เริ่มหิว เดินไปทานข้าวที่ stay by the bay ค่ะ 
เป็นข้าวปีกไก่ กับ น้ำอ้อย ^^


ทานเสร็จก็เดินไป super tree ค่ะ ถ้าจะไปดูโชว์จะมีรอบ 19:45 กับ 20:45 นะคะ 

เดินมาถึงแล้ว 


จากตรงนี้ เดินเล่นริมอ่าวมารีน่า แล้วก็นั่งรถเมล์กลับโฮสเทลค่ะ เพราะเพลียมาก ฮ่าๆ
พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ^^ 

วันถัดมา ตื่นแล้วแต่ยังปวดตัวอยู่ กลิ้งไปกลิ้งมา จนเที่ยงกว่า  ออกมาหาข้าวทานที่ Bugis ค่ะ
และก็เสี่ยงเซียมซี  ขอพรกับเจ้าแม่กวนอิม ที่วัด kwan im thong hood cho ค่ะ
ใครมา MRT ก็ ลงสถานี Bugis Exit C ค่ะ  

จากนั้นเปลี่ยนแผนไป Jewel เดี๋ยวนั้นเลย ตอนแรกจะแวะวันกลับ แต่นั่งAir asia ซึ่งอยู่เทอมินอล 4 ต้องต่อ shuttle bus ไปก็เลยไม่อยากแบกกระเป๋าไปมา เลยไปตอนนี้เลยค่ะ

นั่ง MRT ไปลงที่สนามบิน Changi เลยค่ะ
ถึงแล้ว เดินตามป้ายไปเลย 


จากเทอมินอล2 เดินไป Jewel ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีค่ะ
 Jewel อยู่นู่น


เดินเข้ามาแล้ว คึกคักค่ะ ผิดกับเมื่อวานที่เรามาตอนหกโมงเช้า ฮ่าๆ
น้ำตกนี้สูงถึง 40 เมตรเลยนะคะ
ด้านในก็เหมือนห้าง มีร้านขายเสื้อผ้า มี Tokyu hand มีร้านอาหาร มีStarbuck
ส่วนช่วงค่ำมีโชว์ที่น้ำพุด้วยค่ะ แต่เราอยู่ไม่ถึงค่ำ 
เดินเล่น ตากแอร์ ถ่ายรูป จิบชามะนาว อยู่ในนี้จนถึงเย็นค่ะ 


ออกมาจาก Jewel ห้าโมงกว่าค่ะ จะไปชิวบนดาดฟ้าชั้น 50 ของตึก Pinnacle@Duxton
จากสนามบิน นั่งยาวๆมาลง MRT Outram Park ได้เลยค่ะ 

มาถึงหกโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่พักเบรคค่ะ กลับมาอีกที หกโมงครึ่งก็เลยรอแถวนั้นค่ะ 
ค่าขึ้นตึก คนละ 6 เหรียญค่ะ ถูกกว่าชั้น 56 ของตึกเรือ Marina bay sands แล้วก็คนไม่เยอะวุ่นวายค่ะ

ขึ้นมาแล้ว^^


อีกมุม


สามารถเข้าไปอ่านรีวิว สถานที่เที่ยวต่างในสิงคโปร์ที่เราเคยไปได้ที่ >> http://journeyofarrow.blogspot.com/2018/05/review-2018-by-journey-of-arrow.html

ชิวอยู่บนนี้ถึงสองทุ่มกว่า หิวข้าวก็เลยไปหาข้าวทานค่ะ จากนั้นก็ไปชิวริมอ่าวมารีน่า
แล้วก็นั่งรถเมล์กลับ hostel ค่ะ

วันสุดท้าย จะกลับแล้ว
เช็คเอาท์ตอนเที่ยง เอากระเป๋าฝากไว้ที่โฮสเทล  แล้วก็ไปกินข้าวก่อน จากนั้นนั่งรถเมล์ไปตึก Suntec
ไปสัมผัสน้ำพุ เอาฤกษ์เอาชัยหน่อย ช่วงบ่ายน้ำพุเปิด ช่วงบ่ายสองถึงบ่ายสี่โมงนะคะ

อากาศยังร้อนตอนบ่ายๆเลยเดินจากตึกSuntec เลาะอ่าวมารีน่า ไปจิบชาเขียวที่สตาบัคซะหน่อย
บ่านวันเสาร์ ที่สาขานี้คนเยอะเชียวค่ะ สั่งชาเขียว พนักงานคนสิงคโปร์ ถามว่า "เย็น or ปั่น"
เราก็ตอบไปว่า "ปั่น" ฮ่าๆ คนไทยมาเที่ยวเยอะค่ะ พนักงานสื่อสารภาษาไทยได้ 

วิวจากสาขาที่เรามาใช้บริการค่ะ 


จิบจนหมด แดดร่มลมตก ยังไม่ได้เวลาไปสนามบิน ก็เลยนั่งรถเมล์ไป Garden by the bay ค่ะ
เดินผ่านเมอไลออน


ถ่ายรูป นั่งเล่นที่ Garden by the bay แล้วก็เดินไปแถวอ่าวมารีน่าค่า


Marina bay


ห้าโมงกว่าๆ ก็นั่งรถเมล์กลับไปเอากระเป๋าที่โฮสเทลค่ะ แล้วก็นั่ง MRT ไปสนามบิน
อย่าลืมคืนบัตร SG tourist pass นะคะ ได้ค่ามัดจำบัตร 10 เหรียญค่ะ  ฮี่ๆ ค่าข้าวเย็นนี้

จากเทอมินอล2 ให้ลงบันได้เลื่อนมาที่ชั้นล่างที่เป็น Arrival hall นะคะ 
จะมี shuttle bus รับ-ส่ง ที่เทอมินอล 4 

รอตรงนี้


จากเทอมินอล 2 นั่งมาไม่ถึง 10 นาทีค่ะ รถมาจอดด้านหน้าเลย เดินเข้ามาคือเช็คอินได้เลย


เพิ่งทุ่มกว่าๆ ไปหาข้าวทานกันค่ะ 
ฟู้ดคอร์ทจะอยู่ด้านบนนะคะ ขึ้นบันไดเลื่อนไปเลย


ได้ชาก๋วยเตี๋ยวมาค่ะ ^^ ไปปีนังตอนต้นปี ไม่ได้กิน 



กินเสร็จ นั่งย่อยซะหน่อย แล้วก็เข้าเกทค่ะ ได้ใช้ Auto gate ทำเองหมดเลย 
ใช้ง่ายไม่ยากค่ะ  คืนนี้หวยออกที่เกท G1 ค่ะ ใครได้เกทนี้ เผื่อเวลาหน่อยนะคะ 
เพราะไกล ฮ่าๆ  ตามป้ายไป

G1 สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ใครสูบบุหรี่ก็มี smoking area ก่อนถึงเกทค่ะ


นั่งรอแถวนี้ก่อน หน้าเกทคนเยอะ ไม่มีที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ค่ะ


ดีเลย์นิดหน่อยค่ะ ตามตารางต้องมาถึงไทย ห้าทุ่มครึ่งก็เลยจองไฟลท์นี้ 
มาถึงจริงๆเกือบเที่ยงคืน ไหนจะ bus gate อีก ไม่ทันรถ A1 ค่ะ รถหมดเที่ยงคืน
มีแต่แท็กซี่ ใครไม่พร้อมจ่ายค่าแท็กซี่ ก็เลือกไฟลท์มาถึงดอนเมืองอย่าดึกมากนะคะ ^^

สรุปค่าใช้จ่าย ทริปนี้

ค่าตั๋วไป-กลับ 3,834 บาท
ค่าประกันเดินทาง 149 บาท
ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก เราแลกไป 220 SGD
เหลือก่อนขึ้นเครื่องประมาณ 3 เหรียญกว่าๆ 
เราไปหยอดตู้บริจาคหมดเลยค่ะ 

220*22 = 4840 บาท

ทั้งหมด 8,823 บาทค่ะ

ทริปนี้เหมือนพักผ่อน มากกว่าค่ะ ไม่ได้จัดโปรแกรมหนัก เพราะมาแบบโนแพลนจริงๆ ฮ่าๆ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังไปสิงคโปร์นะคะ ^^ 
รวมรอบนี้เราไปสิงคโปร์มา "6 รอบ"แล้วค่ะ 

เผื่อมีคำถามสงสัย แวะไปสอบถามได้ที่เพจนะคะ >> https://www.facebook.com/Journeyofarrow/
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า

บินเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง#2019 เวอร์ชั่นติด ตม.ฮ่องกง

สวัสดีปีใหม่ 2019 ค่ะทุกคน ^____^

เปิดปีใหม่ปีนี้ด้วยการไปแก้ปีชงที่ฮ่องกงค่ะทุกคน เนื่องจากสามเดือนที่แล้วเห็นตั๋วโปรไป-กลับมาเก๊า
ประมาณ 3,200 บาท มือลั่น กดจองไป 8-9 มกราคม


คิดว่าไปเดินเล่นมาเก๊าหน้าหนาว หลังจากที่ไปเดือนกันยาปี 2017 ร้อนตับแลบมาก ณ จุดนี้ เลยกลับมาซ้ำอีกทีหน้าหนาว เพื่อความฟินยิ่งกว่าเดิม ^^ แต่คิดไปคิดมานั่งเรือข้ามไปฮ่องกงด้วยดีกว่า

รีวิวบินเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า 2017 >> https://journeyofarrow.blogspot.com/2017/09/macau-one-day-trip-2017.html

เดินทางเมื่อ : 8-9 มกราคม 2562
อากาศ : 17 องศา
ภาษา : อังกฤษ จีนกวางตุ้ง จีนแมนดาริน โปรตุเกส
ค่าเงิน : แลกไป 1 HKD = 4.16 บาท แลกไป 1400 HKD เหลือกลับมา 350 HKD
*อย่าลืมซื้อประกันเดินทางด้วยนะ ซื้อแบบ world wide ราคา 200 บาทนิดๆ

พร้อมแล้วขึ้นเครื่องไปพร้อมๆกันค่า !!! Let's go !!!!!!!!!!

คืนวันจันทร์ที่ 7 ไปนอนโฮสเทลตรงข้ามดอนเมืองค่ะ เพราะต้องมาขึ้นเครื่องแต่เช้า นอนไม่หลับ
ตื่นเต้น กลัวตกเครื่อง ฮ่าๆ แต่ดีกว่านอนพื้นสนามบินเป็นไหนๆ มาถึงสนามบิน ไม่มีกระเป๋าโหลดก็ไปเช็คอินที่เครื่องคีออสได้เลย ใช้ไม่คล่อง มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำค่ะ ไม่ต้องห่วง ^^

ได้บอร์ดดิ้งพาสแล้วเข้าไปในเกทกันค่า


ได้เวลาก็ขึ้นเครื่อง 06.45 Take off bye bye Thailand ค่าาาา !!!!

เราโชคดีมาก พี่ผู้หญิงที่นั่งติดหน้าต่าง ย้ายไปนั่งที่อื่น เราเลยเหมา 3 ที่นั่งเลยค่ะ ก็เลยนอนลงไปเลยเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน ฮ่าๆ ตื่นมาก็เห็นเป็นวิวเนี้ยะ  ใกล้จะแลนด์แล้ว ^^


รอบนี้เครื่องเทียบงวง ก็เลยเดินไปตม. ปั๊มผ่าน ไม่ถงไม่ถามสุขภาพซ้ากคำ ฮี่ๆ
ออกมาแล้วเลี้ยวขวาค่ะ เดินยาวๆเลย ไปท่าเรือกัน ^^


อากาศเย็นกำลังดีค่ะ เราใ่สเสื้อยืดกับสเวตเตอร์ เดินชิวๆ ผิดกับเดือนกันยาอย่างสิ้นเชิง ร้อนสุด ><
เดินยาวๆเลยค่ะ จนกว่าจะเจอท่าเรือ นี่ผ่านป้ายรถเมล์ด้วย


เจอเทอมินอลแล้วจ้า เข้าไปด้านในกัน


เข้ามาแล้วจะเจอร้านอาหาร แมคโดนัล ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 ค่ะไปซื้อตั๋ว





ไม่ใช้พาสปอร์ตค่ะ บอกว่าไปลงฝั่งเกาะฮ่องกง ถ้ามาแอร์เอเชียไฟลท์แรก จะทันเรือรอบ 11.30 น.ค่ะ
ค่าตั๋วคนละ 160 HKD


จากนั้นก็เข้าเกทกัน ก่อนเข้าจะมีเคาเตอร์ตรวจตั๋วก่อนผ่านตม.ค่ะ
ผ่านตม.แล้วก็ไปขึ้นเรือกัน เกท 5 ค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วแล้วก็แปะสติ๊กเกอร์ที่นั่งให้เรา ว่าต้องนั่งตรงไหน

ขึ้นมาบนเรือแล้วเป็นแบบนี้ค่า


ที่นั่งของเรา


ที่นั่งไม่แคบเกินไป นั่งสบายๆเลยค่า
 (เหมือนรีวิวสายการบินเลย  นี่ก็ไม่ได้รีวิวนานละ เมื่อก่อนรีวิวทุกไฟลท์ที่บิน ฮ่าๆๆ รอบนี้รีวิวเรือ ฮ่าๆๆ)


ค้นในกระเป๋าด้านหน้า มี safety card ถุงใส่ของเหลว แล้วก็แม็กกาซีน



เรือออกแล้ว อยากนั่งติดหน้าต่าง เลยย้ายที่ค่า มองออกไปเป็นแบบนี้ เรือวิ่งนิ่มดีค่ะ เราไม่เมาเรือเลยค่ะ


จะมีเจ้าหน้าที่เดินแจกใบขาเข้า เราก็ขอไว้มาเพื่อกรอกไว้รอ ^^


wi-fi ฟรีมีอยู่จริงค่าคุณผู้ชม เร็วและแรง ^^ ฝากเพจหน่อยจ้า อิอิ


นั่งมาไม่นานเริ่มเห็นเกาะ เห็นตึกสูงๆแล้วค่ะ ถึงฮ่องกงแล้ว ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเป๊ะ !! เร็วเว่อ สะดวกสบายมากค่า ^^ แต่หารู้ไม่ว่ากำลังจะติดตม. ฮ่าๆ

มองไปเป็นฝั่งเกาลูนค่า


ลงจากเรือก็เดินตามเค้าไปค่ะ ไปจนถึงตม. รอบนี้เราเข้าฮ่องกงครั้งที่ 4 แต่เป็นครั้งแรกที่มาทางเรือ

อ่านประสบการณ์ติด ตม.ฮ่องกงได้ที่ >> https://web.facebook.com/Journeyofarrow/photos/a.1161490613879320/2410928308935538/?type=3&theater

หลังจากผ่านตม. แล้วก็เดินลงไปที่ MTR Sheung Wan ซื้อบัตร octopus ค่ะ 150 HKD ใช้ได้ 100 HKD กับมัดจำอีก 50 HKD จะได้คืนตอนเราคืนบัตรค่ะ

ได้บัตรแล้วนั่งไปลง Mong kok ค่ะ พักที่ City plus hostel ตึก Sincere ชั้น 9 ป้าเจ้าของที่พักใจดี พูดจีนกวางตุ้งกับอังกฤษได้ แต่พูดจีนกลางไม่ได้ค่า เราคุยด้วยแล้วแกไม่เข้าใจ ><


เราจองห้องเดี่ยว อีเมลมาจองเลยค่ะ แกตอบเมลเร็ว ไม่มีโอนมัดจำ มาจ่ายหน้างานเลย
ห้องคืนละ 280 HKD ค่ะมีมัดจำ กุญแจ 100 HKD ห้องเป็นแบบนี้ ฮ่องกงสไตล์ ^^
ผ้าเช็ดตัว ถ้าไม่ได้เอามา ขอยืมได้ค่ะ ฟรี ^^



หลังจากพักเหนื่อย พร้อมกับชาร์จแบตโทรศัพท์เรียบร้อย ก็ออกไปเดินเล่นค่ะ
จุดหมายแรกคือ วัดกังหันค่ะ ไปขอพรกัน
การเดินทาง MTR Taiwai Exit B

มาถึงแล้ว เข้าไปด้านในกันค่ะ บ่ายนี้คนเยอะเลย คนไทยก็เยอะค่ะ ^^


ขากลับจากวัดกังหัน ระหว่างรอรถไฟจะไปวัดหวังต้าเซียน อากาศดีค่ะ 18 องศาเย็นๆ เห็นภูเขา ฟินๆ

"The best is yet to come"



จากนั้นไปต่อที่วัดหวังต้าเซียน เสี่ยงเซียมซีสักหน่อย
การเดินทาง MTR Wong Tai sin Exit B3 ค่ะ


หลังจากทำบุญเสร็จ ฝนตกปรอยๆค่ะ เป็นละอองฝน ว่าจะะไปถ่ายรูปเล่นแถว MTR Austin ก็เลยไม่ไปละ นั่งรอพักเหนื่อยแถวหน้าวัด ก็ไปต่อที่ Victoria Harbour ค่ะ

การเดินทาง MTR Tsim sha tsui ออกทางออกเดียวกับ โรงแรมเพนนินซูล่าค่ะ

ตรงนี้ Avenue of star ปิดปรับปรุงหลายปี กำลังจะเปิดให้เข้าชมเร็วๆนี้ค่ะ
อากาศดีเชียวค่ะ เย็นๆ ฟินๆ มาเดินเล่นกันได้


นั่งอยู่แถวนี้จนมืด อยากได้โปสการ์ดก็เลยไปเดินหาซื้อที่ ตลาด Temple street Night market
ลง MTR Jordan ค่ะ ถัดไปแค่สถานีเดียวเอง ที่นี่คนไม่แน่นเท่า Lady market ตรงมงก๊กค่ะ
มาเดินเล่น หาของกินได้ ของฝากก็ทั่วไปเลย พวกแม่เหล็ก ของที่ระลึกต่างๆค่ะ


ได้โปสการ์ดแล้ว กลับมาชิวที่อ่าววิคตอเรียต่อค่ะ พอมาถึงโชว์จบพอดี ทุกคนแยกย้าย ฮ่าๆ

นั่งนี่ก็ได้ เขียนโปสการ์ดเพลินๆค่ะ


เรือซิกเนเจอร์ของฮ่องกงค่ะ ^^ อากาศคือฟินสุด ^^


กลับจากจิมซาจุ่ยเกือบสี่ทุ่มค่ะ กลับมงก๊ก ไปหาข้าวกิน ร้านนี้โต๊ะว่างๆเลยเข้าไปนั่งทานอะไรร้อนๆดีกว่า

สั่ง wanton มาทานค่ะ 20 HKD เอง


ทานเสร็จยังไม่อยากขึ้นห้อง ไปเดิน Lady Market ต่อกันค่ะ
มาที่นี่ให้เาลองต่อราคาขั้นสุดดูนะคะ แล้วคนขายจะง้อเราเอง ฮ่าๆ

เราซื้อของ คนขายบอก 89 HKD ซึ่งแพงม๊ากกกก !!! เราเลยขอต่อเหลือ 10 HKD ค่ะ
พูดเสร็จ โดนคนขายตบเลยค่ะ !! ฮ่าๆๆ เค้ามาตีแขนเรา แล้วบ่นเป็นจีนกลาง
ประมาณว่าต่อถูกจัง ชั้นก็ไม่ได้กำไรสิ ! 5555+ สรุป จบที่ 20 HKD ค่ะ

ใครมาลองดูนะคะ ถ้าไม่ได้ราคาที่ต่อ ให้ทำท่าเดินหนีค่ะ เค้าจะเกาะแขนเราไว้ แล้วง้อเราเอง ฮ่าๆ
แต่ต่อดีๆนะคะ เราโดนเค้าตบมาแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ


ได้ของฝากละ ไปหาของกินต่อในเซเว่นค่ะ  ลองนมมะละกอ ฮ่องกงหน่อย
ปรากฏว่า ไม่ปลื้มค่ะ ไม่เจ้มจ้น เท่าของไต้หวัน ฮ่าๆ


กินนมเสร็จ เดินเล่นซะหน่อย ยังไม่อยากขึ้นห้องค่ะ อยากซึมซับบรรยากาศเย็นๆ ฟินๆ
แต่ฝนตกค่ะ ก็เลยกลับห้องก็ได้ ^^ พรุ่งนี้นั่งเรือกลับมาเก๊ากันค่ะ


เช้าวันที่ 9 มกราคม ตื่นสายค่ะ ทานมาม่าคัพที่ซื้อมาจากเซเว่นเมื่อคืน
แล้วก็เช็คเอาท์ออกมาเกือบเที่ยง



แวะไปส่งโปสการ์ดที่ ไปรษณีย์มงก๊กค่ะ  ส่งไปญี่ปุ่น ค่าแสตมป์ 4.90 HKD
ส่งไปสิงคโปร์ ค่าแสตมป์ 3.70 HKD ค่ะ


จากมงก๊ก เราไปต่อกันที่ฝั่ง Central ค่ะ ใครอยากลองนั่งรถราง (Tram) ก็มาฝั่งเซ็นทรัลได้
รอรถไฟ บ๊ายบายมงก๊ก เดี๋ยวมาเที่ยวใหม่จ้า ^^


เรานั่งมาลง MTR Wan chai ค่ะ มาเดินเล่นแถวนี้ก่อน แล้วค่อยขึ้นเรือกลับมาเก๊า

ฮัลโหล หว่านใจ๋ ^^


เจอรถรางด้วย จริงๆนั่งจากที่นี่ไปลงท่าเรือได้ แต่เรากลัวหลงเลยไม่นั่ง ฮ่าๆๆ


wi-fi ฟรีมีอยู่จริงค่ะคุณผู้ชม


ลองๆ แค่คอนเน็คก็เล่นได้แล้วค่ะ ไม่ต้องใส่รหัส เร็วด้วย ดีจัง ^^


เดินไปเดินมา เจอที่ทำการไปรษณีย์เก่า


เดินไป เดินมา



ได้เวลากลับมาเก๊าแล้ว แวะเซเว่นหาไรกินหน่อย  ชานมไต้หวันเจ้มจ้น ^^
ที่ฮ่องกงขายถูกกว่าสิงคโปร์อีก


จากนั้นก็นั่ง MTR กลับไปที่ Sheung wan
รถรถไฟค่า


บนจอก็จะมีบอกว่า เวลากี่โมง อุณหภูมิเท่าไหร่ อีกกี่นาทีรถไฟจะมาค่ะ ^^


นั่งมาลง MTR Sheung wan อย่าลืมคืนบัตร Octopus ค่ะ คืนแล้ว
เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปซื้อตั๋วขึ้นเรือกลับมาเก๊าค่ะ

รอบนี้นั่งของ Turbo jet ไปลงฝั่งในเมืองของมาเก๊าค่ะ ค่าเรือ 171 HKD
ของเรา อีก 5 นาทีเรือจะออกค่ะ  วิ่ง 4X100 โลดจ้า  ฮ่าๆๆ

ถึงเรือแล้ว วิ่งขึ้นเลย


ตั๋ว


บาย ฮ่องกง เดี่ยวมาใหม่จ้า ^^  กระจกจะมัวๆหน่อยจ้า


เรืออกแล้ว รีวิวTurbo jet กันบ้างค่ะ

ที่นั่งเป็นแบบนี้ค่ะ


นั่งสบายๆ


ค้นกระเป๋าข้างหน้า


wi-fi มีค่ะ แต่ไม่แรงของเราฟังเพลงในยูทูปแล้ว โหลดช้า ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันค่ะ
นั่งไปได้ครึ่งชั่วโมง รู้สึกอยากอาเจียนค่ะ ฮ่าๆๆ
ทรมานมาก ก็เลยหลับตา แล้วภาวนาให้ถึงมาเก๊าเร็วๆ ฮ่าๆๆ

เอ้าถึงแล้ว on time ค่ะ ลงเรือมา เจอสะพานด้วย อลังสุดๆ


หลังจากผ่านตม.มาแล้ว รอบนี้ตม.คือสุดจริง !! "โยนพาสปอร์ต"คืนเรา ฮ่าๆ ไม่เคยเจอ ฮ่าๆๆ
แวะกินแมค แล้วก็ไปขึ้นรถฟรี ไปเที่ยวเซนาโด้สแควร์ค่ะ เดินตามป้ายมาเลยค่ะ พอโผล่ขึ้นมา
ให้มองหาป้าย Grand Emperor ค่ะ เลี้ยวขวา เราจะติดรถดรงแรมนี้ไปลงในเมืองค่ะ

รถสีนี้เลย ถ้าไม่ชัวร์ ถามเจ้าหน้าที่เลยค่ะ คนมาเก๊าใจดี ^^


ฝั่งตรงข้ามเป็นท่าเรือ


รอแป๊บนึง รถก็ออกค่ะ ใช้เวลาไม่นาน ไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงหน้าโรงแรม


วนมาจอดหน้าโรงแรม ก็ลงโลดค่า
ขอบคุณ Grand Emperor ด้วยนะคะที่สนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้ค่ะ ^^


จากหน้าโรงแรมเราสามารถเดินไปเซนาโด้สแควร์ได้ค่ะ อาศัยดูรีวิวเก่าของตัวเอง ก็พอจะจำทางได้ ฮ่าๆ


อากาศเดือนมกรา น่าเดือนกว่าเดือนกันยาเป็นไหนๆ ^^b มามาเก๊าหน้าหนาวนะคะทุกคน ฟินสุด!!


ถึงแล้วค่ะ คนเยอะหยั่งกะมด


เดินๆ



ไหลไปเรื่อยๆ เจอแลนด์มาร์ค


แวะซื้อทาร์ตไข่ กับชามะนาวมานั่งกินซะหน่อย


ด้านข้าง ยังพอมีมุมให้ถ่ายรูปค่า


ทานเสร็จเดินไปชมวิวด้านบนกัน รอบที่แล้วมาแล้วก็ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนค่ะ


วิวจะประมาณนี้ค่ะ






ข้างบน อากาศเย็นๆฟินๆค่ะ ลมพัดตลอด หน้าชากันไป ฮ่าๆ


จากตรงนี้ลงไปซื้อของฝาก ข้างล่างแล้วก็เดินไปถามรอบรถกลับเวเนเชี่ยนด้วยค่ะว่าหมดกี่โมง
เดี๋ยวไม่มีรถกลับ กลัวตกเครื่อง


เดินกลับไปที่โรงแรม The Emperor อีกครั้ง ได้ความว่า รถจากที่นี่ ไป City of dream หมดเวลา ห้าทุ่มค่ะ
งั้นไม่ต้องห่วง มีรถกลับสนามบินแน่นอน

เลยแวะซื้อของฝาก แล้วก็รอเดินดูไฟตอนกลางคืนค่ะ มืดแล้ว ^^ ตอนกลางคืนมาเก๊าสวยไปอีกแบบ




เดินมาถึงซากโบสถ์ ช่วงที่ไปมีโชว์ไฟด้วยค่ะตอน 1 ทุ่ม




มวลชน


ดูโชว์ไฟจนจบ
จะกลับแล้ว เดี๋ยวมาใหม่จ้า ^^


จากนั้นก็เดินมาขึ้นรถ shuttle bus ของ City of dream ค่ะ
ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ค่ะ ^^

มองเห็นสะพานด้วย  สวยงามตามท้องเรื่อง


มาเก๊าทาวเวอร์


นั่งมาแป๊บเดียวก้มาถึง COD ค่ะ แวะเข้าห้องน้ำ ล้างมือ น้ำอุ่นสุดในมาเก๊าละ ฟินเว่อ!!
แล้วก็เดินไปเวเนเชี่ยนค่ะ อยู่ตรงข้ามกันนี่เอง


เดินไป The Parisian ดีกว่า


แล้วก็เดินกลับมาหน้าเวเนเชี่ยน  เพื่อจะขึ้นรถฟรีไปสนามบินค่ะ



ฝั่งตรงข้ามเป็น City of dream


จากนั้นก็นั่งรถไปสนามบินค่ะ เพื่อเช็คอินขึ้นเครื่องกลับ
บ๊ายบายมาเก๊า เดี๋ยวกลับมาเที่ยวใหม่ แน่นอน !! ^^


ถึงไทยอย่างสวัสดิภาพค่ะ ดีเลย์ไปครึ่งชัวโมง เครื่องแลนด์เกือบตี 1
เปิดทริปรับปีใหม่อย่างสวยงาม "ติดตม.ฮ่องกง" !!! ฮ่าๆๆ

ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ค่ะ ^^ นี่แหละเสน่ห์ของการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ ทริปหน้า สำหรับทริปนี้ สวัสดีค่า ^/\^

E-book เรียนอังกฤษ-จีน ง่ายๆสไตล์เด็กสายวิทย์ พร้อมเทคนิคสอบ TOEIC 650+ >> https://www.ookbee.com/shop/book/0f99be8a-3ec4-42f1-a855-01896495e9b7/เรียนอังกฤษ-จีนง่ายๆ-สไตล์เด็กสายวิทย์


E-book แชร์ประสบการณ์ไปทำงานบนเรือสำราญ 239 วัน 
Ookbee >> https://www.ookbee.com/shop/book/9fd268ef-064c-4662-846f-5b05ac129501/บันทึก-239-วัน-เมื่อฉันเป็นลูกเรือสำราญ

Mebmarket >> https://www.mebmarket.com/ebook-127839-บันทึก-239-วัน-เมื่อฉันเป็นลูกเรือสำราญ


มีคำถามสงสัย แวะไปคุย สอบถามได้ที่ >> https://web.facebook.com/Journeyofarrow/