แบกเป้เที่ยวฮ่องกงสุดมันส์ 4 วัน 3 คืน Part 2.2 นั่งรถราง & ชมวิวเดอะพีค

มาต่อกันตอนที่ 2.2 ค่ะ หลังจากกลับจาก Dragon's Back ก็นั่งมินิบัสมาลงที่ MTR Shau Kei Wan
นั่งมาแป๊บเดียวค่ะ 15 นาทีก็มาถึงแล้ว


ก่อนจะนั่งรถรางไป Central เพื่อต่อรถเมล์ขึ้นไปชมวิวที่ Victoria Peak (หรือเดอะพีค) เราขอแวะทานข้าวก่อน ซึ่งร้านที่เราทานเป็นร้านฝั่งตรงข้ามอยู่เยื้องๆกับจุดจอดรถมินิบัสค่ะ ถ้ามา MTR ให้ออก Exit A2 ค่ะ ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เดินเลียบไปทางซ้ายมือ

นี่หน้าร้านค่ะ



ป้ายเมนูหน้าร้านเป็นภาษาจีนล้วนค่ะ เราเลยมองๆ ส่องเข้าไปในร้าน ปรากฏว่ามีเป็ดมีไก่แขวนอยู่ในตู้
อยากกินข้าวหน้าเป็ดค่ะ  มีผู้ชายคนนึงยืนหน้าร้าน เค้าคุยกับเราเป็นภาษาจีนค่ะ  เราเลยบอกว่า "ปู้ต่ง" (แปลว่า ไม่เข้าใจ) เราถามเค้าว่า "Picture .. Picture ??" ประมาณว่า เมนูอาหารมีรูปมั้ย? (ตอนไปโตเกียว ไปเจอร้านที่มีแต่เมนูภาษาญี่ปุ่นค่ะ เราอ่านไม่ออกแล้วก็ไม่มีรูปด้วย เรากับคนขายสื่อสารกันไม่ได้ เลยอดกินร้านนั้นค่ะ)  เค้าเลยถามเราว่า พูดอังกฤษได้มั้ย?  เราบอกว่าได้นิดหน่อยค่ะ แล้วหนูจะสั่งอาหารได้มั้ย เมนูมีแต่ภาษาจีน ? เค้าบอกว่าสั่งได้ ให้เราไปนั่งในร้านเลย

โอเคเรามานั่งในร้านค่ะ คุณป้าเอาเมนูมาให้ เปิดไปเปิดมา มีแต่ภาษาจีน ฮ่าๆ


ทีนี้มีพี่ผู้หญิงมาคุยด้วยค่ะ ถามว่าเราอ่านภาษาจีนออกมั้ย? เราก็บอกว่าอ่านไม่ออกค่ะ  เค้าถามด้วยนะว่าคนไทยรึเปล่า? เราบอกว่าใช่ค่ะ เราถามพี่เค้าว่าพี่พูดไทยได้มั้ยคะ? เค้าบอกพูดไม่ได้
งั้นโอเคค่ะ เรามาสปีคอิงลิชกัน ฮ่าๆ ทีนี้พี่เค้าก็ไล่รายการเลย อันแรกเป็นข้าวมันไก่นะ อันที่สองเป็นก๋วยเตี๋ยว...บลาๆๆๆ เราอยากกินข้าวหน้าเป็ดค่ะ เลยชี้ไปที่เป็ดแดงๆ ที่แขวนอยู่ในตู้ข้างๆกับไก่ แล้วบอกว่า "ดั๊กๆ" (ทำท่าตีปีกด้วย พั่บๆๆ 555 ใบ้สุดฤทธิ์ ) พี่เค้าบอกว่า "โนดั๊ก ...กู้ส กู้ส"
เราก็อะไรอ่ะ??งง?  กู้ดๆๆ เราก็เถียงไปว่าจะกินเป็ด เราก็บอกว่าดั๊กๆๆ พี่เค้าก็บอกว่า "กู้ส...กู้ส"
เราก็เออๆ กู้สก็กู้ส ฮ่าๆ ขี้เกียจเถียงละ หิวละ

รอสักพักคุณป้าก็มาเสิร์ฟ..
ข้าวห่านย่างงงงง เนื้อแน่น ไม่ตบเนื้อ แอบติดกระดูกมาด้วย ข้าวสวยร้อนมาก ควันฉุยเชียว
กินตอนหิวๆ อากาศเย็นๆนี่ อร่อยสุด!! (มารู้ทีหลังว่า Goose แปลว่า ห่านค่ะคุณผู้ชม! ศัพท์ใหม่เลยนะเนี่ยไม่เคยรู้มาก่อน ฮ่าๆๆ)
จานนี้ 38 HKD ค่ะ กับโค้กกระป๋องเล็กอีก 3 HKD ค่ะ


ทานเสร็จจ่ายตังค์ บอกพี่เค้าว่าอร่อยมากๆ เดินออกมาหน้าร้านพี่ผู้ชายที่คุยกับเราตอนแรกชวนเราคุย
พี่ผู้ชาย : เป็นคนไทยเหรอ?
เรา : ใช่ค่าาา
พี่ผู้ชาย :" อร่อย-มาก-มาก" (พูดภาษาไทยค่ะ^^)
แล้วถามต่อว่า "มาเที่ยวฮ่องกงอีกมั้ย?"
เรา : เดี๋ยวมาอีกค่ะ
พี่ผู้ชาย : เมื่อไหร่?
เรา : เดือนหน้าค่ะ (ตอบไปมั่วๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน ^^)
พี่ผู้ชาย : อ้าว !เดือนหน้า ก็ปีหน้าอ่ะดิ (แล้วแกก็หัวเราะ ฮ่าๆๆ)
เราก็หัวเราะ แล้วเค้าก็บอกให้ไปเช็คอิน แล้วแชร์ด้วยนะ ชวนเพื่อนมากิน ฮ่าๆๆ ใครมา Shau Kei Wan อยากกินข้าวห่านย่างอร่อยๆ แนะนำร้านนี้เลยนะคะ^^ อร่อยจริงๆ คนที่ร้านนี้ Nice มากๆด้วย ^^

หลังจากทานเสร็จ ก็ได้เวลานั่ง Tram (รถราง) เที่ยวชมเมืองด้วย แล้วก็นั่งไปลง Central เพื่อต่อรถเมล์ขึ้นเดอะพีคด้วยค่ะ จาก MTR ให้ออก Exit C ค่ะ เลี้ยวซ้ายตามป้ายมาเรื่อยๆจะเจอวงเวียน เป็น Tram Terminus สำหรับรถรางในฮ่องกงจะมีแค่ฝั่งฮ่องกงเท่านั้นนะคะ เส้นทางจะเลาะไปตาม MTR สายสีน้ำเงินเลยค่ะ ค่าโดยสาร 2.30 HKD ตลอดสายค่ะ (ประมาณ 9 บาทเท่านั้น ถูกเว่อร์!) ใช้บัตร Octopus จ่ายได้ค่ะ

วิธีนั่ง Tram
1.ดูป้ายหน้ารถรางว่า ไปไหน (ผ่านที่ที่เราจะไปรึเปล่า สามารถตรวจสอบเส้นทางได้ที่ http://www.hktramways.com/en/schedules-fares/ )
2.รถมาแล้ว ขึ้นประตูหลังค่ะ
3.เลือกที่นั่งชั้นบน นั่งหน้าสุดจะดีมาก^^
4.ถึงสถานีที่เราจะลงก็เตรียมตัวเดินลงมาชั้นล่างค่ะ (เราอาศัยมองข้างทางเอาค่ะ เช่น เราจะลง Central ก็มองหา MTR Central ค่ะ  )รถจะจอดทุกสถานีเลยค่ะ จุดจอดจะอยู่กลางถนนเลยค่ะ
5. รถจอดปุ๊บ แตะบัตรOctopus ตรงแท่นข้างคนขับ แล้วก็เดินลงจากรถค่ะ เป็นอันเสร็จพิธี


ของเรานั่งจาก Shau Kei Wan ไปลง Central รถที่ผ่านก็จะมีสาย Western Market แล้วก็ Kenedy Town ค่ะ ตรงนี้รถรางมาเรื่อยๆเลย ดูป้ายหน้ารถค่ะ เราขึ้นรถที่เขียนว่า Western Market ค่ะ

ขึ้นมาแล้วชั้นบน พยายามนั่งหน้าๆ จะได้ชมวิวค่ะ
มองไปด้านข้างบ้าง จะมีรถรางอีกสองคันนู้นกำลังจะเข้ามาจอดรับผู้โดยสารค่ะ


นั่งแป๊บเดียวรถก็ออกค่ะ  สังเกตว่ารถรางจะวิ่งตรงกลางของถนนเลย


เพิ่งจะห้าโมงครึ่ง เริ่มมืดแล้ว ร้านค้าเริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ


นั่งมาเกือบ 1 ชั่วโมงใกล้จะถึง Central แล้วค่ะ ผ่านตึกนี้ด้วย Bank of China เดี๋ยววันกลับจะแวะขึ้นไปชมวิวฟรีบนชั้น 43 ค่ะ ^^


มาถึง MTR Central แล้วเดินลงไปในสถานีก่อนค่ะ จากนั้นให้มาออก Exit A ไปตึก Exchange Square
ใต้ตึกนี้จะมีรถบัสจอดอยู่ค่ะ  สายที่จะไปเดอะพีคคือ สาย 15 ค่ะ
ออก Exit A ขึ้นบันไดเลื่อน เดินข้ามฝั่งมาจะเป็นตึก Exchange Square ค่ะ เดินลงมาใต้ตึกเป็นแบบนี้
ไหนละป้ายรถบัส สาย 15 ??? มีแต่มินิบัสจอดอยู่ค่ะ  งง??


เลยถามคนฮ่องกงที่เดินผ่าน เค้าบอกว่ารถเมล์ไปเดอะพีคจอดอยู่อีกฝั่งนึง ต้องเดินไปอีก
ทันใดนั้น เราเห็นรถเมล์สาย 15 ขับผ่านมาพอดีค่ะ เราวิ่งตามรถเมล์เลยค่ะ 5555+
แล้วก็มาเจอลานจอดรถเมล์ค่ะ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับลานจอดมินิบัสตรงนี้ค่ะ เราวิ่งขึ้นรถเมล์เลยค่ะ
ค่ารถ 9.8 HKD ค่ะ รถจอดแป๊บเดียวก็ออก คนเต็มรถเลยค่ะ


เนื่องจากตอนเย็น การจราจรติดขัด ใช้เวลานิดนึงค่ะ แต่พอหลุดมาได้ เหลือแต่เป็นทางขึ้นเขาก็โอเคแล้วค่ะ ทางแคบมาก คนขับรถเมล์เก่งมากค่ะ ฮ่องกงดริฟท์สุดๆ วิวข้างทางสวยมากค่ะ ตึกต่างๆเริ่มเปิดไฟตอนกลางคืน

นั่งมาประมาณ 40 นาที ก็มาถึงจุดจอดรถเมล์ค่ะ ขากลับก็มาขึ้นรถเมล์ตรงนี้ค่ะ


ลงรถแล้ว เจอป้ายนี้เลยค่ะ เราจะไปชมวิวฟรีที่จุดชมวิวชั้น 3 ของ The Peak Galleria ค่ะ


เดินตามป้ายเข้ามาในตึกแล้ว จะเป็นเหมือนห้างค่ะ มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้า
ในส่วนของชั้น 3 ก็เปิดให้เป็นจุดชมวิวฟรีค่ะ เราเดินตามป้ายมาเลย

เข้ามาแล้วในส่วนของจุดชมวิว ลมแรงมาก หนาวมาก ต้องเอาผ้าพันคอออกมาใส่เลยค่ะ > <


เดินพุ่งตรงไปที่ระเบียงข้างหน้าเลยค่ะ


จะเจอวิวนี้ค่ะ สวยมากกกก คุ้มค่าแก่การขึ้นมาชมสักครั้งค่ะ ^^ ไม่เสียแรงที่วิ่งตามรถเมล์มา ฮ่าๆๆ




ถ้ามาชมวิวตอนกลางวัน จะมองเห็นด้วยว่าตึกไหนเป็นตึกไหน มีป้ายบอกด้วยค่ะ


นอกจากนี้ยังมีกล้องส่องทางไกลด้วยค่ะ ลองส่องดูแล้ว ซูมชัดเว่อร์ ฟรีด้วยค่ะ ^^



จากนั้นเราก็ไปหลบลมหนาวในตึก The Peak ค่ะ ที่นี่เป็นที่ตั้งของ Madame Tussauds สาขา Hong Kong ค่ะ เนื่องจากเราได้ตั๋วฟรีเลยขอเข้ามาแวะชมซะหน่อย



ทางเข้าค่ะ


เข้ามาแล้วโซนแรก คนเยอะเลย


โซนบุคคลสำคัญของโลก


คอเกาหลีห้ามพลาด  ซีวอนก็มาจ้า ยืนรออยู่ด้านใน


มีหลายโซนเลย โซนนี้ก็จะเป็นเกี่ยวกับประวัติแล้วก็วิธีการทำหุ่นขี้ผึ้ง


โซนนี้เลดี้กาก้า กับเทเลอร์ สวิฟฟ์ก็มาจ้า


ส่วนโซนสุดท้ายจะเป็นไซอิ๋วกับนางพญางูขาว หนังจีนในตำนานที่เราเคยดูตอนเด็กๆ อิอิ
ได้ถ่ายรูปกับหงอคงด้วยค่ะ ^^

ดูเสร็จสองทุ่มกว่าๆ เดินออกมาเห็นคนต่อแถวเยอะเชียว รอคิวนั่งรถรางกลับลงไปข้างล่างกันค่ะ
คนเยอะมาก ส่วนเรากลับรถเมล์เหมือนเดิมค่ะ


มองไปตึก The Peak Galleria ตอนกลางคืน


เดินทะลุตึกนี้กลับไปขึ้นรถเมล์ที่เดิมค่ะ
ยืนรอรถเมล์


รถเมล์มาแล้วรีบขึ้นมานั่งข้างบนค่ะ เตรียมตัวฮ่องกงดริฟท์เหมือนเดิม
ขากลับเราลงที่ MTR Admiralty ค่ะ แล้วต่อกลับมงก๊กนั่นเอง


ขากลับเร็วมากๆค่ะ รถไม่ติด  ใช้เวลา 20 นาทีก็มาถึง MTR Admiralty
จากนั้นก็นั่ง MTR กลับมงก๊ก ไม่ทานข้าวเย็นแล้วค่ะ ไม่หิว วันนี้เมื่อยมาก ทั้งปีนเขาทั้งวิ่งตามรถเมล์ ฮ่าๆๆ พักผ่อน พรุ่งนี้ไปตะลุย Ocean Park ตั้งใจมาดูโชว์ปลาโลมาโดยเฉพาะเลยค่ะ

โปรดติดตามตอนต่อไป >> Part 3 ตะลุย Ocean Park http://journeyofarrow.blogspot.com/2016/12/4-3-part-3-ocean-park.html




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น