เช้านี้ออกมาเก็บตกที่มัสยิดจาเม็ก อาคารสุลต่าน อับดุล ซามัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของ KL
ขึ้นรถไฟฟ้าตามมาเลยค่ะ
เริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้า Pasar seni ไปลงที่ สถานี Masjid Jamek ดูจากแผนที่เหมือนจะเดินไปได้
แต่ก็ดูไม่เข้าใจอยู่ดี ก็เลยไปเริ่มกันที่สถานี Masjid Jamek ง่ายสุด
รถไฟฟ้ามาแล้ว
นั่งมาสถานีเดียวค่ะ แล้วก็เดินออกมาจากตัวสถานี ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นมัสยิดจาเม็ก
มีปุ่มให้กดข้ามถนนด้วยค่ะ
เดินงงๆ เดินเข้ามาในมัสยิดจาเม็ก ไม่มีคนเลย เจอเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะอยู่ ตรงทางเข้า เค้าบอกว่าเข้าไปไม่ได้ เหมือนปรับปรุงอยู่ค่ะ ก็เลยเดินออกมาค่ะ เห็นยอดอาคารสุลต่าน อับดุล ซามัดอยู่ใกล้ๆ ก็เลยเดี๋ยวเดินไปอาคารสุลต่าน อับดุล ซามัดละกัน
ถนนแถวนี้ กำลังปรับปรุงอยู่ค่ะ ก็เลยมีการปิดถนนไป เราก็เดินเลียบมาตามทางเรื่อยๆ
ส่วนสนามหญ้าสีเขียวๆ ลานกว้างตรงข้ามกับอาคารสุลต่าน อับดุล ซามัด ตรงนี้จะเป็นจตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) ค่ะ
เดินเลาะมาเรื่อยๆ มาถึงเสาธงที่สูงที่สุดในโลก มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นตัวอาคารสุลต่าน อับดุล ซามัดค่ะ ไกลๆ นั่นคือเห็นยอดตึกแฝดปิโตรนาสด้วยค่ะ
เดินไปลานเสาธงค่ะ
ถึงแล้วค่ะ แหงนหน้าขึ้นไปค่ะ นี่คือเสาธงที่สูงที่สุดในโลก ><
ด้านหลังของลานเสาธง จะเป็นแกลลอรี่ KL ค่ะ
สำหรับป้าย I love KL สีแดง ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกันอยู่หน้าทางเข้าแกลลอรี่ค่ะ แต่เราไม่ได้เข้าไปข้างในนะคะ เหมือนต้องซื้อตั๋วด้วย ตังค์จะหมดแล้ว ฮ่าๆ
สำหรับอาคารที่อยู่ข้างๆกันคือ Music Museum
อาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้าม คือ National Textile Museum ค่ะ ตึกสวยดี
เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามบ้างค่ะ ที่ KL ภูมิประเทศเค้าจะเป็นเนินเขาหน่อยๆนะคะ แต่เค้าก็สามารถทำให้ถนนหนทาง มันเรียบได้ ^^
มองไปฝั่งนู้น จะเห็นถนนเป็นเนินๆ
เดินเลาะมาเจอเซเว่นค่ะ เลยเข้าไปซื้อน้ำ เริ่มสายแดดเริ่มร้อนแล้วค่ะ ><
เดินกลับมา มองจากฝั่งนี้ไปมั่ง
แล้วก็มาหลบแดด พักดื่มน้ำที่ลานเสาธงค่ะ
จากนั้นก็เดินกลับ จะไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับสถานี Pasar Seni ค่ะ จะไปทานข้าวที่ร้าน Old Town white coffee ใน Central Market สำหรับโซนนี้ถ้ามาถ่ายรูปช่วงเช้าก็ดีค่ะ คนไม่เยอะ ทัวร์ยังไม่มา เพราะถ้าทัวร์มา รถบัสจะจอดเต็มเลยริมถนน บังวิวค่ะ
สำหรับอาคารลุลต่าน อับดุล ซามัด เรามาเห็นของจริงก็ประทับใจนะคะ คือตัวอาคารใหญ่มาก ยาวไปจนสุดถนนเลย สถาปัตยกรรมสวยงาม แปลกตาดีค่ะ ไม่แปลกที่จุดนี้ จะเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพค่ะ
เดินกลับมาที่สถานี Masjid Jamek
**มีวิธีซื้อตั๋วรถไฟฟ้าที่ KL ด้วยตัวเอง มาฝากด้วยค่ะ ลิงค์นี้เลยค่ะ >> http://journeyofarrow.blogspot.com/2017/02/kl.html
ที่ KL เวลาอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าเวลาขึ้นบันไดเลื่อน ที่สังเกตส่วนมากจะชิดซ้ายนะคะ ตามนี้
จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้ากลับ และแล้วการมาที่มาเลเซียซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 4 วันของเรา
ทำให้เราเพิ่งค้นพบว่า "รถไฟฟ้าที่ KL ไม่มีคนขับค่ะ คุณผู้ชม" !!! ><
คือเคยเห็นแค่แบบ sky train เล็กๆเวียนตาม terminal ที่สนามบินที่สิงคโปร์ อันนั้นเข้าใจได้ แต่อันนี้คือเป็นรถไฟฟ้าแบบจริงจังเลย แต่ไม่มีคนขับ ที่เพิ่งทราบเพราะว่านั่งโบกี้แรก แล้วมองทะลุหน้าต่างออกไป เจออุโมงค์กับรางค่ะ และไม่มีคนขับ !!! >< ) ตอนรถวิ่ง ฝรั่งที่ใส่เสื้อกล้ามนี่ ถ่ายคลิปไว้เลยนะคะ
นั่งมาสถานีเดียวก็กลับมาถึงที่เดิม เราจะไปกินข้าวใน Central Market ค่ะ เดินเข้าไปด้านในค่ะ
เช้านี้ฝากท้องไว้ที่ Old Town white coffee ถ้ามามาเลจะเจอร้านนี้อยู่ทั่วไปหมดเลยค่ะ ที่ปีนังก็มี
เมนูของเราคือ Nasik Lemak ค่ะ อาหารของมาเลเซีย ^^ กับโค้กเย็นๆ 1 แก้ว เซ็ทนี้ 16 ริงกิตค่ะ (128 บาท) ไม่แพงค่ะ อร่อยดีค่ะ แต่ถั่วกับปลากรอบแห้ง ทานไม่เป็นค่ะ ฮ่าๆ เหลือเต็มเลย
ทานเสร็จแล้ว ด้านใน Central Market ก็ขายพวกของฝาก ของที่ระลึกต่างๆค่ะ
เดินออกมาด้านนอก เห็นมีคนมาเตรียมการแสดงน่าจะมีเชิดสิงโต เดี๋ยวค่อยเดินกลับมาดูค่ะ
ยังพอมีเวลา เลยเดินทะลุ ถนน Kasturi walk ข้างๆ Central Market เดินผ่านออกมาแล้วเป็นแบบนี้
สุดถนนเลี้ยวไปซ้ายมือ เดี๋ยวนะ!! ยอดเสาธงอันนั้น คุ้นๆค่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน^&%^$#@
ที่แท้ก็คือ เสาธงที่สูงที่สุดในโลก ตรงจตุรัสเมอร์เดก้า ที่เราไปถ่ายรูปมาเมื่อเช้า ฮ่าๆๆๆๆ
อยู่ใกล้ที่พักแค่นี้เอง จริงๆเดินไปก็ได้ แต่เราไม่รู้ค่ะ เพิ่งจะมารู้ตอนจะกลับ !!! ฮ่าๆๆๆๆ ><
ฝั่งตรงข้ามของถนนนี้เป็นหอนาฬิกาค่ะ
เดินไปตามทาง ไปดูซิว่ามีอะไร เดินข้ามถนนมาก็เจอกับสิ่งนี้ค่ะ มัสยิดจาเม็ก อยู่ตรงนี้นี่เอง ><
ที่ตั้งของมัสยิดจะอยู่บริเวณแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกันค่ะ
จากนั้นเดินมาอีกก็ผ่านเซเว่นที่เรามาซื้อน้ำตอนเช้าค่ะ ฮ่าๆๆ
เดินตรงมาถึงสี่แยก ก็เลี้ยวขวาค่ะ จะเจอกับอาคารสุลต่าน อับดุล ซามัดค่ะ ><
สายๆเริ่มมีรถทัวร์มาจอดแล้วค่ะ
เริ่มร้อนแล้ว ใกล้เที่ยงแล้วค่ะ เดี๋ยวต้องกลับไปเก็บของ เช็คเอาท์ค่ะ เตรียมไปสนามบิน จะกลับแล้ว แง๊ๆ
เดินกลับมาหน้า Central Market ได้ยินเสียงตุ้งแช่ ดังมาก เลยเดินมาดูเค้าเชิดสิงโตค่ะ ^^
จากนั้นก็กลับห้องไปเก็บของ แล้วก็เช็คเอาท์ บ๊ายบายรูมเมทคนไต้หวันค่ะ ^^
การเดินทางกลับสนามบิน ตอนแรกจะนั่ง KLIA Express แต่แพงมาก 55 ริงกิตแน่ะค่ะ ตังค์ไม่พอ
ก็เลยนั่งรถบัสกลับเหมือนเดิม 10 ริงกิตเท่านั้น นั่งรถไฟฟ้ากลับไปที่ KL sentral แล้วก็เดินเข้าไปในห้าง Nu sentral mall ค่ะ ใช้ลิฟท์ตัวเดิมกับตอนขามา กดลิฟท์ลงไปชั้นล่างค่ะ จะเป็นท่ารถกลับสนามบิน
ลงมาแล้วลิฟท์เปิดออกมา จะเจอรถบัสจอดอยู่
ก็เดินไปซื้อตั๋วที่เคาท์เตอร์เลยค่ะ ไป สนามบิน KLIA 10 ริงกิต
ถ้าไป KLIA 2 นี่ไม่แน่ใจว่าเท่ากันมั้ย
รถจอดอยู่ใกล้ๆกันค่ะ รอบต่อไป 13.00 น. ขึ้นไปรอนั่งบนรถเลย เดี๋ยวรถจะออกแล้วค่ะ
ตั๋วรถ ^^ 10 ริงกิต รอบบ่ายโมง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสนามบิน ไฟลท์เรา 5 โมงเย็น
ไปถึงบ่ายสองโมง มีเวลาเหลือเฟือเลยค่ะ ^^
รถออกแล้ว คนเกือบเต็มค่ะ รถออกตรงเวลา รถสภาพดี สะอาด แอร์เย็น เบาะใหญ่นั่งสบาย
นั่งมาได้ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ปรากฏว่า รถเสียค่ะ คุณผู้ชม!!! สตาร์ทไม่ติด จอดดับอยู่กลางทาง
โอ้ว จอร์จ!!! อะไรกันนี่ !!! >< จะตกเครื่องมั้ยนี่ >< คุยกับคนข้างๆ เป็นคนอินโดฯค่ะ ไฟลท์เค้าห้าโมงเย็นเหมือนกัน เค้าไปคุยกับคนขับ ได้ความว่า เดี๋ยวจะมีรถคันใหม่มารับ แต่ไม่รู้จะนานมั้ย *O*
อีกครึ่งทางก็จะถึงสนามบินอยู่แล้ว >< ตอนนี้คนเริ่มทยอยลงจากรถค่ะ เพราะร้อนและหายใจไม่ออก
ตอนนี้บ่ายโมงครึ่ง และไม่รู้รถคันใหม่จะมาถึงกี่โมง เห็นหลายคนไปโบกแท็กซี่ค่ะ
ส่วนเรานั่งมองตาปริบๆ เพราะไม่มีตังค์จ่ายค่าแท็กซี่ ชวนคนญี่ปุ่นคุย ไฟลท์เค้าห้าทุ่มค่ะ เค้าไม่รีบ
เค้าบอกให้เราไปลองโบกรถดู ฮ่าๆๆ
ตอนนี้มีความรู้สึกว่า ถูก"ทิ้งไว้กลางทาง"ค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ถนนหนทางที่มาเลเซีย เค้าทำดีจริงๆค่ะ
ระหว่างทาง มักมีเรื่องเกิดขึ้นให้เราตื่นเต้นอย่างไม่คาดคิด
เราว่า"นี่แหละ..เสน่ห์ของการเดินทาง" ^^
นั่งรอรถ วนไปค่ะ เนื่องจากมีแดด ก็เลยเอาร่มออกมากางแบบไม่แคร์สื่อ
"ก็หนูร้อนอ่ะ" ><
นั่งกางร่มชิคๆคูลๆอยู่ ก็มีสองสามี-ภรรยา ชาวมาเลใจดี ตะโกนถามว่ามีใครจะไปแท็กซี่กับพวกเค้ามั้ย
นั่งได้ 4 คนค่ะ ขาดอีก 2 คน เราเลยถามว่าเท่าไหร่ เค้าบอกว่า 50 ริงกิต เราคิดดูถ้าหาร 3 แล้วประมาณ 100 กว่าบาทนิดๆ เราพอมีจ่ายค่ะ ก็เลยนั่งไปกับเค้า เย่!! รอดแล้ว ^O^
ระหว่างทางคุยกัน เค้าบินมาเลเซียแอร์ไลน์เหมือนกันค่ะ แต่เป็นไฟลท์บ่ายสาม มาเที่ยวกรุงเทพอาทิตย์นึง แต่ของเราไฟลท์เย็นเป็นคนละไฟลท์กันกับเรา เค้าบอกเค้าไม่มั่นใจว่ารถบัสจะมาทันรึเปล่า เค้าเลยไม่เสี่ยง เลยเรียกแท็กซี่ดีกว่า เราถามเค้าว่ารถบัสเสียแบบนี้บ่อยมั้ย? เค้าบอกว่าไม่นะ เค้าก็นั่งรถบัสไปสนามบินตลอด เพิ่งเคยเจอรถเสียครั้งนี้ครั้งแรก
บรรยากาศในรถแท็กซี่ค่ะ
นั่งมาประมาณ 20 นาทีก็มาถึงสนามบินค่ะ มาถึงบ่ายสองโมงครึ่งค่ะ แฮ่!
เค้าใจดีมากค่ะ เราจะออกตังค์ช่วย เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร ^^ Terima Kasih ค่า ใจดีมากเลย ^/\^
รถมาจอดหน้า Terminal ค่ะ
สำหรับสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ถ้าเป็นเฟิร์สคลาสกับบิสสิเนสเช็คอินที่ Row D ค่ะ
ของเรานั่ง Eco ต้องมาเช็คอินที่ Row C ค่ะ สองสามี-ภรรยาคนมาเล เค้าน่าจะบินบิสสิเนสค่ะ
เช็คอินคนละฝั่ง เลยแยกกันตรงนั้น
เราเดินมาเช็คอินที่ Row C ค่ะ เจ้าหน้าที่ถามว่าไฟลท์กี่โมง เราบอกว่าไปกรุงเทพ ห้าโมงเย็น
เค้าหาอยู่นาน จนได้บอร์ดดิ้งพาสมา จริงๆไฟลท์เราออกตั้งหกโมงเย็นแน่ะค่ะ >< แต่บอร์ดดิ้งตอนห้าโมงเย็น นี่ก็รีบซะ! แต่ดีแล้วค่ะ เหลือดีกว่าขาด ไม่อยากตกเครื่องนะ ไม่มีตังค์ซื้อตั๋วใหม่ ฮ่าๆๆ
ก่อนเข้าเกทแวะทาน KFC ไมมีช้อนส้อมค่ะ ใช้มือค่า ^^
อิ่มแปล้แล้ว ก็เข้าเกทค่ะ ผ่านตม.ออกมาแล้วเป็นแบบนี้ เกท H6 ค่ะ ตามป้ายไปเล้ย
เดินมาแล้วเจอโมเดลเครื่องบินค่ะ แอ๊ๆๆๆๆ ชอบๆๆๆ ><
A380 MH
เดินตามป้ายไปเรื่อยๆค่ะ KLIA ร้านขายของไม่ค่อยเยอะค่ะ สตาร์บัคมีค่ะ
เดินไปรอหน้าเกทดีกว่า ที่สนามบิน KLIA จะโล่งๆสบายๆ คนไม่เยอะค่ะ
วันนี้วันเสาร์เย็น ผู้โดยสารน่าจะเยอะกว่าขามา...รึเปล่าน๊า
เข้ามาแล้วค่ะ เครื่องจอดรออยู่แล้ว
**สำหรับรีวิวเต็มๆมาเลเซียแอร์ไลน์ทั้งขาไป-กลับ ของทริปนี้สามารถดูรีวิวได้ที่นี่ค่ะ ^___^ >> http://www.hflight.net/forums/topic/17343-%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5-with-malaysia-airlines/
แล้วก็เทคออฟ บ๊ายบายมาเล เคแอล เดี๋ยวกลับมาเที่ยวใหม่แน่นอนค่ะ
ทริปนี้สนุกสุดๆ โหด/มันส์ /ฮา/ ระทึก !!!
สำหรับค่าใช้จ่าย (คร่าวๆ)
ตั๋วไป-กลับ มาเลเซียแอร์ไลน์ 3,560 บาท
อัตราแลกเปลี่ยน 1 ริงกิต ประมาณ 8 บาทค่ะ
วันที่ 1 ค่ารถจากสนามบินเข้าเมือง 10 ริงกิต
ค่าที่พัก PODs Backpacker Hostel 1 คืน 35 ริงกิต
ค่าข้าว 12 ริงกิต
ชาเขียว 16 ริงกิต
ค่ารถไฟฟ้าไป-กลับ ตึกแฝด 4.8 ริงกิต
77.8 ริงกิต = 623 บาท
วันที่ 2 ค่ารถไป TBS 6.5 ริงกิต
ค่ารถไปมะละกา 10 ริงกิต
ค่าขึ้นหอคอย ค่าข้าว 46 ริงกิต
คิกคาปู้ 2.6 ริงกิต
ค่าโรงแรม 65 ริงกิต
ค่าข้าวที่เซเว่นตอนค่ำ 10 ริงกิต
140.1 ริงกิต = 1,121 บาท
วันที่ 3 ค่ารถกลับ KL 10 ริงกิต
มาม่ากับน้ำ 4 ริงกิต
ค่าสามล้อโปเกมอน 25 ริงกิต
รถไฟฟ้าที่ KL ทั้งวัน 10 ริงกิต
ค่าห้อง Marquee guest houzz 28 ริงกิต
ไก่ทอด Texas 13.70 ริงกิต
โดนัท J.co 17.15 ริงกิต
ขนมของฝาก 33 ริงกิต
140.85 ริงกิต = 1,127 บาท
วันที่ 4 กินข้าวร้าน Old town white coffee 16 ริงกิต
ค่ารถไฟฟ้า 2.4 ริงกิต
ค่ารถไปสนามบิน 10 ริงกิต
น้ำ 1.6 ริงกิต
KFC 13 ริงกิต
43 ริงกิต = 344 บาท
รวม 4 วัน ประมาณ 3,200 บาทค่ะ แต่แลกไป 4000 บาท
แต่ตอนแลกกลับเหลือประมาณเกือบ 400 บาท ก็มีซื้อขนมจุบจิบบ้าง
KL-มะละกา 4 วัน 3คืน บินมาเลเซียแอร์ไลน์ทั้งทริป ประมาณ 7,000 บาทค่ะ
สำหรับเราถือว่าไม่แพง คุ้ม บินดี กินอิ่ม นอนหลับทุกคืน ^^
จบทริปด้วย ปุยเมฆเหนือน่านฟ้ามาเลเซียค่ะ ^^ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า
ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ (ใครตามเนี่ย ฮ่าๆๆ)
Terima Kasih & สวัสดีค่า ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น